ฝรั่งเศสหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่
ปารีส (AP) – เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. มีการนัดหยุดงานทั่วประเทศในฝรั่งเศสเพื่อเป็นการประท้วงแผนการปฎิรูประบบเกษียณอายุของรัฐบาล
ทางการกรุงปารีสปิดล้อมทำเนียบประธานาธิบดีและจัดกำลังตำรวจ 6,000 นายเพื่อดูแลควบคุมความเรียบร้อยของการเดินขบวนครั้งใหญ่ทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งนี้ โดยผู้ประท้วงต้องการแสดงออกถึงความไม่พอใจ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ในแผนปฏิรูปของเขา โดยพวกเขามองว่าเป็นความเสี่ยงมากขึ้นกับวิถีชีวิตของคนฝรั่งเศสที่มีการทำงานหนักมาตลอด
การประท้วงที่ส่งผลกระทบกับระบบขนส่งสาธารณะและโรงเรียนปิดทั่วฝรั่งเศสเข้าสู่วันที่ 2 ในวันที่ 6 ธ.ค.โดยสหภาพแรงงานระบุว่า มีแผนจะชุมนุมประท้วงต่อไปจนกว่าประธานาธิบดีมาครงจะยกเลิกแผนปฏิรูประบบเกษียณ
การนัดหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่นี้พุ่งเป้าไปที่ประธานาธิบดีมาครง อดีตนายธนาคารนักลงทุนวัย 41 ปี ซึ่งรับตำแหน่งประธานาธิบฝรั่งเศสเมื่อปี 2560 โดยเขาสัญญาจะเปิดกว้างทางเศรษฐ
กิจที่เคยเข้มงวดของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแนวคิดที่สวนทางกับสหภาพแรงงานอันทรงพลังซึ่งระบุว่า เขากำลังรื้อระบบเดิมที่ปกป้องคุ้มครองแรงงาน
พนักงานรถไฟมีมติให้ขยายเวลาการหยุดงานประท้วงถึงวันที่ 6 ธ.ค. ขณะที่สหภาพแรงงานของรถโดยสารในกรุงปารีสและพนักงานรถไฟใต้ดินระบุว่า พวกเขาจะชุมนุมกันจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. ขณะที่พนักงานในสหภาพการค้าอื่นจะตัดสินใจในวันที่ 6 ธ.ค.ว่าจะประท้วงต่อไปหรือไม่
“ เราจะประท้วงอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และถ้าหมดสัปดาห์แล้ว รัฐบาลต้องยอมถอย” แพทริก โดส ซานโตส พนักงานขนส่งปารีสวัย 50 ปีระบุ
โดยการประท้วงเพื่อต่อต้านรัฐบาลบนถนนหลายสายในกรุงปารีสและเมืองอื่นๆ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. มีผู้เข้าร่วมจำนวนนับแสนคนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข และคุณครู
ตำรวจระบุว่า มีผู้ชุมนุมประมาณ 65,000 คนในปารีส ขณะที่มีผู้ประท้วงทั่วประเทศประมาณ 806,000 คน โดยตำรวจมีการใช้แก๊สน้ำตาในช่วงบ่ายของวันที่ 5 ธ.ค.ในบริเวณกลางกรุงปารีสขณะที่ผู้ประท้วงขว้างดอกไม้ไฟเข้าใส่ตำรวจ พังป้ายรถเมล์ และจุดไฟเผาถังขยะ
มีผู้ถูกตำรวจจับกุมตัวหลายสิบคน โดยผู้นำสหภาพระบุว่า ผู้ที่ใช้ความรุนแรงไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของสหภาพการค้า
ทั้งนี้ มาครงต้องการปฏิรูประบบเกษียณให้ง่ายขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีแผนที่แตกต่างกันถึง 40 แผน ต่างกันทั้งอายุเกษียณและสิทธิประโยชน์ โดยพนักงานรถไฟ ทหารเรือและนักเต้นบัลเลต์ในโรงอุปรากรปารีสสามารถเกษียณได้เร็วกว่าแรงงานอาชีพอื่นโดยเฉลี่ยถึง 10 ปี มาครงระบุว่าระบบที่มีอยู่ไม่เป็นธรรมและมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป เขาต้องการให้เป็นระบบเดียว
กันทั้งหมด คนวัยเกษียณทุกคนต้องมีสิทธิเท่าเทียมกัน ขณะที่ผู้ชุมนุมกังวลว่า การปฏิรูปจะเป็นการขยายเวลาเกษียณออกไป ส่งผลทำให้พวกเขาได้เงินบำนาญและสวัสดิการน้อยลง.