ญี่ปุ่นกระตุ้นศก. 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์
โตเกียว (รอยเตอร์) – รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ด้วยงบประมาณสูงถึง 92,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 2.79 ล้านล้านบาท ) จากรายงานข่าวของหนังสือพิพม์นิกเคอิ เนื่องจากดีมานด์ทั่วโลกซบเซา และสงครามการค้าสหรัฐฯ – จีนสั่นคลอนการฟื้นตัวที่เปราะบางของประเทศ
เพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้ภาคส่วนการเงิน รัฐบาลจะออกพันธบัตรมากขึ้นเพื่อเป็นทุนใช้การใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคเป็นจำนวน 4 ล้านล้านเยน ( 1.11 ล้านล้านบาท ) และชดเชยรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ลดลงจากบรรดาบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าอ้างอิงจากรายงานของหนังสือพิมพ์ในวันที่ 30 พ.ย.
โดยคณะทำงานของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะจะพิจารณามาตรการในสัปดาห์หน้า หลังจากมีการปรึกษากับรัฐบาลผสม สื่อนิกเคอิรายงาน โดยไม่ได้ระบุแหล่งข่าว
ส.ส.พรรครัฐบาลผสมได้กดดันรัฐบาลให้มีการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหญ่ เพิ่มโอกาสให้นโยบายงบประมาณมีบทบาทมากขึ้นในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แม้จะมีความเสี่ยงว่าอาจมีหนี้มากขึ้น
ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ว่า นโยบายผ่อนปรนมากที่สุดของธนาคารกลางตั้งเป้าที่ราคา ไม่ใช่เป็นทุนในการใช้จ่ายของรัฐบาล
การใช้จ่ายงบประมาณภายใต้มาตรการนี้มีแนวโน้มจะสูงถึง 10 ล้านล้านเยน ซึ่งจะเป็นการใช้จ่ายสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันที่สิ้นสุดเดือนมี.ค. 2563 และงบประมาณรายปีของปีหน้า
โดยมาตรการนี้จะรวมถึงการใช้จ่ายเพื่อบรรเทาภัยพิบัติ , การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และมาตรการในการช่วยบริษัทเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น หนังสือพิมพ์รายงาน
รัฐบาลจะออกพันธบัตรเพื่อให้ครอบคลุมการขาดดุลมากขึ้น เนื่องจากรายได้จากการเก็บภาษีสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันจะต่ำกว่าเป้าที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้คือประมาณ 2 ล้านล้านเยน
นอกจากการใช้จ่ายงบประมาณ ญี่ปุ่นจะจัดความช่วยเหลือทางการเงินให้กับบรรดาบริษัทที่มีการลงทุนในต่างประเทศเพื่อช่วยให้มีการผลิตที่มากมายหลากหลาย สื่อรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา
การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นลดต่ำลงมากที่สุดในไตรมาส 3 เนื่องจากดีมานด์ที่ซบเซากระทบการส่งออก ทำให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจอาจถดถอย นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเตือนว่า การปรับขึ้นภาษีบริโภคในเดือนต.ค. อาจกระทบการบริโภคภาคเอกชน