อาลีบาบาเตรียมสร้างฐานในมาเลเซีย
บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป เจ้าของอี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน กำลังสร้างฐานการค้าและขนส่งในเขตการค้าดิจิทัลเสรีของมาเลเซียหรือ DFTZ
การสร้างฐานอิเล็กทรอนิกส์นอกประเทศครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของบริษัทอาลีบาบา โดยมีนายแจ็ค หม่า ประธานบริษัทเป็นผู้ตัดสินใจและวางแผนการสร้างในงานประชุมสุดยอด G20 เมื่อปีก่อน
นายแจ็ค หม่า กล่าวว่า เขาต้องการที่จะสร้างเขตการค้าเสรีอิเล็กทรอนิกส์โลกหรือ eWTP หรือแพลตฟอร์มที่ฟรี เสรี และทันสมัย เหมาะสำหรับธุรกิจ SME และผู้บริโภคทั่วโลก
มาเลเซียถือเป็นประเทศแรกที่ยอมให้เขาได้นำวิสัยทัศน์ของเขามาแสดงต่อนายนาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียในปี 2559
ฐานอิเล็กทรอนิกส์มีแผนที่จะเปิดใช้สิ้นปี 2562 โดยจะมีรูปแบบที่เป็นทั้งศูนย์การค้า คลังสินค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับประเทศมาเลเซียและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อการขนส่งสินค้าที่รวดเร็วทั้งการนำเข้าและส่งออก
โดยนายแจ็ค หม่า ได้ตอบคำถามที่ว่า “ ทำไมถึงเป็นมาเลเซีย? ” สาเหตุมาจากความเป็นมิตรทางธุรกิจของมาเลเซีย ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่เขาคิดไว้ เขาเสริมว่า “ แน่นอน เมื่อ 4 เดือนก่อน ผมอยู่ในปักกิ่ง และไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ ไม่คิดว่าเราจะทำได้ แต่เราก็ทำได้ ”
นายแจ็ค หม่า ได้เปิดตัว DFTZ ร่วมกับนายนาจิบ เมื่อวันที่ 22 มี.ค. โดยเขตการค้าดิจิทัลเสรีนี้ถือเป็นเป้าหมายหลักที่จะพัฒนาให้ประเทศมาเลเซียกลายเป็นศูนย์กลางการค้าทางอินเตอร์เน็ตแหล่งใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มาเลเซียกล่าวว่า ทางมาเลเซียมีศักยภาพมากพอที่จะพัฒนาการส่งออกของสินค้า SME ในภูมิภาคให้เป็น 2 เท่า ภายในปี 2568 พร้อมกับการสร้างงานอีก 60,000 งาน
นายนาจิบกล่าวว่า “ ธุรกิจ SME มีส่วนกว่า 37% ใน GDP ของประเทศ และ 97% ของธุรกิจภายในประเทศล้วนเป็น SME รวมไปถึงธุรกิจขนาดเล็ก แต่เราสามารถพัฒนาและผลักดันจาก 37% ไปเป็น 60% ได้ และ 80% ตามลำดับ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก ผมขอให้คุณมั่นใจว่าผมจะตั้งใจพัฒนาทุกอย่างด้วยตัวผมเอง ทั้งผมและเหล่ารัฐมนตรีของผมจะช่วยกันอย่างเต็มความสามารถ “
DFTZ เป็นเหมือนข้อพิสูจน์ให้เห็นถึงข้อตกลงที่แน่วแน่ของมาเลเซียที่จะผลักดันการเติบโตของธุรกิจ SME ในประเทศผ่านอี-คอมเมิร์ซ และยังเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการประสานงานระหว่างธุรกิจของมาเลเซียและจีนผ่านการร่วมมือของนายแจ็ค หม่า และอาลีบาบา
” ผมมั่นใจว่า หากเราร่วมมือกัน เราจะสามารถทำให้ภูมิภาคของเรากลายเป็นศูนย์รวมเศรษฐกิจที่มั่งคั่ง และนำมาซึ่งผลประโยชน์แก่คนในภูมิภาคและอุตสาหกรรมของเราอีกด้วย “
โดยเขต DFTZ จะมีการก่อตั้งใกล้กับสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เป็นแห่งแรก
มาเลเซียวางแผนที่จะผลักดันการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซภายในประเทศให้เป็น 2 เท่าจากปัจจุบัน โดยจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนให้เป็น GDP ด้วยมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563.
หมายเหตุ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ = 34.83 บาท / 22 มี.ค.2560