ทวิตเตอร์ปิดบัญชีโยงก่อการร้าย

เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ทวิตเตอร์ประกาศว่า ได้ยกเลิก 376,890 บัญชีผู้ใช้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ที่สนับสนุนการก่อการร้าย โดยบัญชีเหล่านี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งปีแรกถึง 60%
การยกเลิกบัญชีล่าสุด ทำให้มีจำนวนบัญชีผู้ใช้งานถูกบล็อกมากถึง 636,248 บัญชีตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2558 เป็นต้นมา เป็นความพยายามของทวิตเตอร์ที่ก้าวหน้าไปอีกขั้นที่จะควบคุมผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มนิยมความรุนแรง อ้างอิงจากการรายงานของทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายงานความโปร่งใสล่าสุด
ความเคลื่อนไหวของโซเขียลมีเดียชั้นนำอย่างทวิตเตอร์มีขึ้นหลังจากถูกกดดันจากรัฐบาลทั่วโลกที่ต้องการให้มีการใช้เทคโนโลยีในการบล็อกการใช้งานของกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือในการโจมตี
โดยทวิตเตอร์รายงานว่า ทาง FBI แจ้งกับบริษัทว่า จะไม่มีคำสั่งศาลไม่ให้เปิดเผยข้อมูลอีกต่อไป เพื่อเป็นการปกป้องการเปิดเผยใน 5 คดีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นคำร้องพิเศษจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ ในคดีเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ
ดังนั้น จึงเป็นผลทำให้ทวิตเตอร์สามารถให้ข้อมูลของผู้ใช้งานที่ถูกกระทบจากคำร้องของ FBI ได้
“ เนื่องจากเราต้องการที่จะผลักดันให้มีความโปร่งใสมากขึ้น กับสิ่งที่เราพูดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ เราจะอัพเดทส่วนใหม่นี้ในรายงานความโปร่งใสในอนาคต” อ้างอิงจากคำแถลงของทวิตเตอร์
โดยทวิตเตอร์ ซึ่งถูกกดดันจากรัฐบาลให้ถอดเนื้อหาที่ก่อให้เกิดความเกลียดชังออก ได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกถึงหุ้นส่วนชื่อ ลูเมน ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทวิจัยเพื่อช่วยจำแนกประเภทข้อมูลที่ควรถูกถอดออก ทวิตเตอร์รายงานว่า บริษัทได้ทำข้อตกลงร่วมกับลูเมนมาตั้งแต่ปี 2553
อีกส่วนหนึ่งของรายงานความโปร่งใส คือการถอดอย่างถูกกฎหมาย หรือคำขอให้ถอดเนื้อหาจากสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อประเภทอื่น
“ มีความกังวลถึงแนวโน้มทั่วโลกที่รัฐบาลในหลายประเทศลิดรอนเสรีภาพสื่อ เราต้องการเป็นแสงสว่างให้กับคำร้องขอเหล่านี้ ” ทวิตเตอร์รายงาน
โดยทวิตเตอร์ได้รับ 88 คำร้องตามกฎหมายจากทั่วโลกเพื่อถอดเนื้อหาที่โพสต์โดยผู้สื่อข่าว หรือสำนักข่าว แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ กับคำร้องส่วนใหญ่เหล่านั้น เนื่องจากมีข้อยกเว้นที่จำกัดในเยอรมนีและตุรกี ซึ่งคิดเป็น 88% ของคำร้องทั้งหมด
“ ตัวอย่างเช่น เราถูกบังคับให้ระงับทวีตที่แชร์รูปภาพ หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายในตุรกี เพื่อเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งศาล” ทวิตเตอร์รายงาน.