อดีตผู้นำเกาหลีใต้ถูกสอบ14 ชั่วโมง
อดีตประธานาธิบดีพัคกึนฮเยแห่งเกาหลีใต้เดินทางออกจากสำนักงานอัยการเมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 มี.ค.หลังจากถูกอัยการสอบสวนคดีทุจริตที่ทำให้เธอต้องจบบทบาทผู้นำประเทศลงในเดือนนี้
อดีตประธานาธิบดีพัคไม่ได้ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวขณะกำลังออกจากอาคารสำนักงานอัยการ หลังจากเข้ามาในตึกนี้นานถึง 22 ชั่วโมง และขึ้นรถยนต์ที่มาจอดรอเพื่อเดินทางกลับบ้านพักส่วนตัว
อัยการสอบสวนเธอในฐานะผู้ต้องสงสัยในคดีอาชญากรรมเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายืนตามมติของสภาที่สั่งถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
อดีตประธานาธิบดีพัคถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกับน.ส.ชเวซุนซิล เพื่อนสนิทของเธอในการกดดันให้เจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่ในเกาหลีใต้หลายแห่งบริจาคเงินให้กับ 2 มูลนิธิที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนประธานาธิบดี แต่เธอและน.ส.ชเวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ทางอัยการปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ว่า อดีตผู้นำจะถูกเรียกกลับมาให้ปากคำเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หรือทางอัยการจะยื่นขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อควบคุมตัวเธอไว้ ทีมอัยการยังไม่ได้ให้ลงลึกในรายละเอียดของคำถาม แต่กล่าวเพียงว่า อดีตประธานาธิบดีพัคให้ความร่วมมืออย่างดีในการสอบสวน
อดีตผู้นำเกาหลีใต้วัย 65 ปีคนนี้ กลายเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกที่ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำพิพากษายืนตามมติถอดถอนของสภา
โดยเธอได้มีคำแถลงสั้นๆ ในช่วงที่เดินทางมาถึงสำนักงานอัยการเมื่อวันที่ 21 มี.ค. ซึ่งเป็นการแถลงต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกหลังจากเธอออกจากทำเนียบประธานาธิบดีไป
“ ดิฉันขออภัยประชนทุกคน ดิฉันจะให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างจริงใจ” เธอกล่าวต่อหน้าผู้สื่อข่าวในขณะที่ก้าวขึ้นบันไดหน้าสำนักงานอัยการ
การสอบสวนใช้เวลานานถึง 14 ชั่วโมงจนกระทั่งจบลงก่อนเที่ยงคืน ซอนบุมกยู หนึ่งในทีมทนายความของเธอกล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยอดีตประธานาธิบดีพัคและทีมทนายความได้ทบทวนการให้ปากคำทั้งหมดในการสอบสวนครั้งนี้ ก่อนที่จะเดินทางออกไปเมื่อเวลา 6.55 น.ของวันที่ 22 มี.ค.
เธอยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหาในตอนนี้ แต่หากพบว่ากระทำความผิดจริง เธออาจต้องถูกคุมขังในเรือนจำนานถึง 10 ปีในข้อหารับสินบนจากเจ้าของธุรกิจขนาดใหญ่หลายบริษัท ซึ่งรวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างซัมซุงด้วย
คดีคอร์รัปชั่นที่อื้อฉาวและกินเวลานานของผู้นำเกาหลีใต้ยังคงดำเนินต่อไปในขณะที่ประเทศต้องเผชิญกับความตึงเครียดเพิ่มขึ้นกับเกาหลีเหนือและจีนอยู่ในปัจจุบัน.