G20 ร่วมมือต้านแฮ็กข้อมูลแบงค์
กลุ่มประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกจะเข้าร่วมในการต่อสู้การโจมตีทางไซเบอร์กับระบบธนาคาร ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะปกป้องธนาคาร นับตั้งแต่มีการโจรกรรมบัญชีธนาคารกลางของบังคลาเทศมูลค่า 81 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
จากการประชุมที่เมืองตากอากาศของเยอรมนีชื่อเมืองบาเดน-บาเดน รัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศ G20
เห็นพ้องกันที่จะต่อสู้กับการโจมตี เพื่อความร่วมมือข้ามพรมแดนที่จะคงเสถียรภาพด้านการเงินให้มีอยู่ต่อไป อ้างอิงจากเอกสารฉบับร่างที่ทางสำนักข่าวรอยเตอร์ได้เห็น
“ เราจะส่งเสริมความยืดหยุ่นของบริการและสถาบันทางการเงินในขอบเขตอำนาจของกลุ่ม G20 เพื่อไม่ให้มีการใช้เทคโนโลยีสื่อสารและสารสนเทศในทางที่ผิด ซึ่งรวมถึงประเทศที่อยู่นอกกลุ่ม G20 ด้วย ”
อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มได้ยกเลิกคำอ้างอิงก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นข้อกำหนดด้านความมั่นคงสำหรับภาคบริการทางการเงิน
ทั้งนี้ อาชญากรรมทางไซเบอร์กลายเป็นประเด็นสำคัญหลังจากมีการโจรกรรมอย่างซับซ้อนกับบัญชีของธนาคารกลางบังคลาเทศที่ธนาคารกลางนิวยอร์กเมื่อปีที่แล้ว การถูกโจมตีอย่างไม่คาดคิดชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ที่มีอยู่ของระบบธนาคาร
ข้อตกลง ซึ่งกำหนดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 18 มี.ค. มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากสหรัฐฯ ได้มีการตั้งข้อหาเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนราชการลับ 2 คนจากรัสเซีย (ซึ่งก็เป็นสมาชิกกลุ่มประเทศ G20 ด้วยเช่นกัน) ว่าเป็นผู้บงการให้มีการแฮ็กข้อมูล 500 ล้านบัญชีของยาฮูในปี 2559
นับเป็นคำฟ้องร้องครั้งแรกของสหรัฐฯ ที่มีการตั้งข้อหาอาชญากรรมต่อสายลับชาวรัสเซียสำหรับการโจมตีทางไซเบอร์ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงหลอกลวงในโลกออนไลน์ การจารกรรมเศรษฐกิจ การขโมยความลับทางการค้า
โดยการตั้งข้อหานี้มีขึ้นท่ามกลางการโต้เถียงอย่างรุนแรงที่เกี่ยวพันกับการที่รัสเซียแฮ็กข้อมูลของสหรัฐฯ ในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีที่แล้ว และความเป็นไปได้ที่จะมีความเชื่อมโยงกันระหว่างรัสเซียและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กรณีการถูกโจมตีอื่นๆ มีตัวอย่างเช่น ระบบธนาคารของห้างค้าปลีกเทสโก้ที่ถูกขโมยไปถึง 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากลูกค้ากว่า 9,000 คนในปีที่แล้ว ขณะที่แฮ็กเกอร์ได้ขโมยเงินกว่า 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากบัญชีคู่สัญญาที่ธนาคารกลางรัสเซีย และอีกหลายบัญชีในธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง
สหภาพยุโรปกำลังพิจารณาการทดสอบระบบป้องกันธนาคารที่มีต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับช่องโหว่ของอุตสาหกรรมที่ทนทานต่อการถูกโจมตี.