รัสเซียหนุนจีนห้ามยูเอ็นช่วยเมียนมา
ประเทศจีนห้ามไม่ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ในพม่าเมื่อวันที่ 17 มี.ค.
โดยมีการหนุนหลังจากรัสเซีย หลังจากเหตุการณ์ทหารพม่าสังหารชาวโรฮิงญา 15 ศพ ในรัฐยะไข่ หรือเขตพื้นที่รักษาความปลอดภัยของกองทัพ
สำนักงานสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติประณามการฆ่าเพื่อหวังล้างเผ่าพันธุ์และการข่มขืน รวมไปถึงการวางเพลิงภายในหมู่บ้านหลายแห่งของชาวมุสลิมโรฮิงญา เมื่อเดือนต.ค.ในปี 2559 ด้วยแคมเปญซึ่งหวังว่าจะช่วยเรียกร้องสิทธิความเป็นมนุษย์จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้
นายเจฟฟรีย์ เฟลท์แมน ผู้อำนวยการด้านการเมืองของสหประชาชาติ เป็นผู้สรุปข้อประชุมภายในสภาที่เป็นการประชุมลับ โดยประเทศอังกฤษเป็นเจ้าภาพการประชุมในครั้งนี้
โดยนายแมทธิว ริครอฟท์ เอกอัครราชทูตประจำอังกฤษและเป็นประธานการประชุมได้กล่าวกับนักข่าวหลังการประชุมและข้อสรุปว่า “ เราได้เสนอเรื่องเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมหลักฐานบางส่วนเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมแล้ว แต่ยังไม่มีการตกลงที่แน่ชัดภายในห้องประชุม ”
ในการเรียกร้องความเป็นธรรมสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว จำเป็นต้องได้รับการยินยอมและเห็นชอบจากมติเสียงส่วนรวม แต่ในขณะเดียวกันนักการทูตได้พูดถึงการถูกขัดขวางโดยประเทศเพื่อนบ้านของพม่าอย่างจีนและประเทศที่ให้ความช่วยเหลืออย่างรัสเซียซึ่งทำให้การยื่นข้อมูลต่อสภาเป็นเรื่องยาก
ทั้งนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ได้พบข้อมูลเรียกร้องความเป็นธรรมฉบับร่าง โดยมีข้อมูลว่า ทางสหประชาชาติต้องการจะเฝ้าสังเกตการปะทะในบางพื้นที่ของประเทศและจะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนในทุกภาคส่วนและทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะ
ผู้คนในรัฐยะไข่กว่า 75,000 รายอพยพไปยังบังคลาเทศหลังจากการเข้ารักษาความปลอดภัยของทหารพม่าในเดือน ต.ค.ปีก่อน เพื่อตอบโต้การที่ชาวโรฮิงญาได้เข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 9 รายจนเสียชีวิต
ด้านสหภาพยุโรปได้เรียกร้องให้สหประชาชาติจัดตั้งกลุ่มสืบค้นข้อเท็จจริงสำหรับเหตุการณ์รุนแรงในเมียนมาเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย การข่มขืน และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงญาโดยทหารพม่า
หลังจากการประชุมอย่างลับๆ ในเดือน พ.ย.ปีก่อน นำมาซึ่งความกังวลต่อชาติตะวันตกที่เพิ่มมากขึ้นเพราะรัฐบาลของนางออง ซาน ซูจี ได้สนับสนุนการใช้ความรุนแรงภายในประเทศเพื่อแยกภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ทางด้านนางออง ซาน ซูจี ได้กล่าวกับนักการทูตในกรุงเนปิดอว์ว่า ประเทศของเธอกำลังได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม.