พรรครัฐบาลชนะเลือกตั้งถล่มทลายในอินเดีย
พรรครัฐบาลที่ปกครองอินเดียชนะการเลือกตั้งในระดับรัฐ สร้างความแข็งแกร่งให้พรรคมีศักยภาพที่จะรั้งตำแหน่งรัฐบาลอีกครั้งในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุด
มีการนับผลคะแนนเลือกตั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาไปแล้วใน 5 รัฐ แต่รัฐหนึ่งที่มีผลการเลิอกตั้งที่ส่งผลกระทบในวงกว้างคือรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งอยู่ตรงกลางของอินเดียที่มีประชากรมากกว่า 200 ล้านคน การเลือกตั้งที่กินเวลานาน 5 สัปดาห์ในรัฐนี้เพียงรัฐเดียวกลายเป็นการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในปี 2560
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค Bharatiya Janata หรือพรรค BJP ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย โดยได้ไปถึง 75% คือ 312 ที่นั่งจากทั้งหมด 403 ที่นั่ง ซึ่งเป็นการชนะครั้งใหญ่ที่สุดของทุกพรรคในรัฐอุตตรประเทศนับตั้งแต่ปี 2523 เป็นต้นมา
คะแนนเสียงที่ได้อย่างถล่มทลายทำให้พรรค BJP สามารถจัดตั้งรัฐบาลของรัฐได้โดยไม่ต้องมีพรรคอื่นเข้าร่วม ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วในรัฐอุตตรประเทศในปี 2555 พรรค BJP ชนะได้เพียง 47 ที่นั่ง
การเลือกตั้งในปี 2560 เป็นการสนับสนุนที่สำคัญสำหรับนายกรัฐมนตรีโมดิ (ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรค BJP) และแนวทางของแคมเปญในการเลือกตั้งระดับรัฐ
ทั้งนี้ การเลือกตั้งระดับรัฐเป็นเรื่องสำคัญกับการเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะแต่ละรัฐจะเป็นตัวชี้วัดจำนวนผู้แทนในสภาสูงของอินเดีย
อ้างอิงจากความเห็นของ Shailesh Kumar ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง ผลการเลือกตั้งในรัฐอุตตรประเทศเท่ากับเป็นการลงประชามติให้นายกรัฐมนตรีโมดิ
“ ประชาชนที่มาลงคะแนนเลือกตั้งล้วนให้การสนับสนุนนโยบายของเขา ชัยชนะครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ความพยายามของนายกฯโมดิที่จะปราบทุจริตให้ผลดีมากกว่าผลกระทบด้านลบจากการยกเลิกการใช้เงิน ”
โดยการยกเลิกการใช้เงินเป็นความเคลื่อนไหวที่ช็อกคนทั้งประเทศในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เมื่อนายกฯ โมดิ เรียกคืนธนบัตรใบละ 500 และ 1,000 รูปีรุ่นเก่าออกจากตลาดเงิน โดยธนบัตรในค่าเงินทั้งสองคิดเป็น 86% ของเงินสดที่หมุนเวียนในกระแสเงินสดทั้งประเทศอินเดีย กระบวนการแลกธนบัตรใบละ 500 และ 2,000 รูปีฉบับใหม่ทำให้ประชาชนต้องต่อแถวยาวหน้าธนาคารและตู้เอทีเอ็มนานหลายสัปดาห์
ขณะที่อินเดียยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา แต่จำนวนประชากรของประเทศและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ที่มีจีดีพีเกือบ 7% ในไตรมาสที่แล้ว ส่งผลกระทบสำคัญกับเศรษฐกิจโลก อ้างอิงจากข้อมูลของ PwC ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา อินเดียคิดเป็น 1 ใน 6 ของการเติบโตของจีดีพีของโลก
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้อำนาจของนายกฯ โมดิคงอยู่ไปถึงปี 2563 เป็นอย่างน้อย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะนานกว่านั้น ตอนนี้สิ่งที่ควรสนใจคือ เขาจะสามารถทำตามคำสัญญาที่จะพัฒนาอินเดียได้อย่างรวดเร็วหรือไม่.