ทรัมป์ล้มแผนจัดประชุม G-7 รีสอร์ทตัวเอง
วอชิงตัน (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯยกเลิกแผนการที่จะจัดการประชุมกลุ่มประเทศ G-7 ที่กอล์ฟรีสอร์ทของเขาในฟลอริดา
หลังจากถูกวิจารณ์จากพรรคเดโมแครตและคนอื่นๆว่าใช้อำนาจในฐานะประธานาธิบดีเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ส่วนตัว
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความต่อเนื่องบนทวิตเตอร์ว่า เขาจะล้มเลิกแผนการที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 17 ต.ค.โดย Mick Mulvaney หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวว่า
สหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมกลุ่มประเทศ G-7 ที่กอล์ฟรีสอร์ท Trump National Doral ใกล้ไมอามีในวันที่ 10 – 12 มิ.ย.
ทรัมป์ชี้ว่า เหตุผลที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจคือ “ ความเป็นศัตรูอย่างบ้าคลั่งและไร้เหตุผล” จากพรรคเดโมแครตและสื่อ
“ เราจะเริ่มมองหาสถานที่อื่น มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นแคมป์เดวิด ” เขาโพสต์
ทรัมป์ถูกวิจารณ์และถูกตรวจสอบจากสภาคองเกรสหลายครั้งเกี่ยวกับสถานะการเงินของเขา และผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเขา ซึ่งเขายังเป็นเจ้าของอยู่ และการถูุกกล่าวหาล่าสุดว่ามีผลประโยชน์ทางการเมืองกับผู้นำยูเครน ที่นำไปสู่กระบวนการเพื่อถอดถอนเขา
“ ผมคิดว่า ผมได้ทำสิ่งที่ดีมากสำหรับประเทศของเรา” เขาโพสต์บนทวิตเตอร์
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ในคณะรัฐบาลรับเงินเดือน ค่าจ้าง หรือผลกำไรจากรัฐบาลต่างชาติและในประเทศโดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส
ส.ส.พรรคเดโมแครตระบุว่า จะสอบสวนแผนของทรัมป์ที่จะให้รีสอร์ทของเขาเป็นสถานที่จัดการประชุม G-7 หลังจากเขาผุดไอเดียในเดือนส.ค.
ในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 17 ต.ค. Jerrold Nadler ประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรมของสภาเรียกคำประกาศนี้ว่าเป็นการคอร์รัปชั่นของประธานาธิบดีอย่างไร้ยางอาย
โดย Nadler ระบุว่า คณะกรรมาธิการจะสอบสวนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต่อไป
ประกาศเรื่องนี้ทำให้ส.ส.เดโมแครตร้องขอบันทึกรายละเอียดจากทำเนียบขาวเพื่ออธิบายว่า ทำไมสถานที่อีก 11 แห่งจึงไม่ได้รับเลือกจากทำเนียบขาว และใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนเท่าไร
ในเดือนพ.ค. สื่อวอชิงตันโพสต์รายงานว่ารายได้จากผลประกอบการของรีสอร์ท Doral ดิ่งฮวบลงถึง 69% ตั้งแต่ปี 2558 จากเอกสารของบริษัท
โดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G-8 ที่แคมป์เดวิด ในรัฐแมรีแลนด์ อยู่ห่างจากกรุงวอชิงตันไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 100 กม.