ปิดถนนประท้วงสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทั่วโลก
ลอนดอน (รอยเตอร์) – เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ผู้ประท้วงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศปิดถนนหลายสายในหลายเมือง เป็นการเริ่มต้นการแสดงอารยะขัดขืนอย่างสันติเป็นเวลา 2 สัปดาห์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลมีการปฏิบัติโดยทันทีในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และหลีกเลี่ยงหายนะของระบบนิเวศ
ในกรุงลอนดอน ตำรวจจับกุมนักเคลื่อนไหว 276 รายจากกลุ่ม Extinction Rebellion เนื่องจากปิดกั้นสะพานและถนนกลางเมือง และติดกาวตัวเองกับรถยนต์ ขณะที่ผู้ประท้วงในกรุงเบอร์ลินปิดการจราจรที่วงเวียน Victory Column
ขณะที่ตำรวจในเนเธอร์แลนด์สามารถจับกุมนักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศได้กว่า 100 ราย เนื่องจากพวกเขาปิดถนนหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ และยังมีการประท้วงแบบเดียวกันนี้ในเมืองใหญ่ของออสเตรีย ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สเปน และนิวซีแลนด์
ป้ายประกาศของกลุ่มนักเคลื่อนไหวในกรุงอัมสเตอร์ดัมระบุว่า “ ขอโทษที่เราปิดถนน แต่นี่มันฉุกเฉินจริงๆ”
ในย่านตลาดการเงินของนครนิวยอร์ก ผู้ประท้วงสาดเลือดปลอมใส่รูปปั้นวัวกระทิงหน้าตลาดหุ้นวอลสตรีทและตัวเอง โดยพวกเขาพากันนอนคว่ำรอบรูปปั้นเพื่อปลุกความกลัวของผู้คนให้ตระหนักถึงหายนะของสภาพแวดล้อม
กลางกรุงปารีส นักเคลื่อนไหวจากกลุ่ม Extinction Rebellion ปิดถนนหลายสายและสะพานหลายแห่งในเขต Chatelet พวกเขายังได้สร้างที่พักพิงชั่วคราว และจัดคอนเสิร์ตเฉพาะกิจและเวิร์คช็อปขึ้นในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติที่ดี
“ ชัดเจนว่านี่ไม่มีความรุนแรง มีความเป็นมนุษย์ เราไม่ได้พกปืนมาที่นี่ เรามาที่นี่ในฐานะมนุษย์” ผู้ประท้วงคนหนึ่งชื่อฟรองซัวส์ ลัวโซ กล่าว
การประท้วงครั้งนี้เป็นแคมเปญล่าสุดทั่วโลกที่มีความตึงเครียดขึ้นและเป็นการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นการประสานความร่วมมือของกลุ่ม Extinction Rebellion ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในเดือนเม.ย.จากการปิดกั้นการจราจรกลางกรุงลอนดอนนานถึง 11 วัน
เกือบ 70 ประเทศประกาศแผนในการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศที่สหประชาชาติในเดือนก.ย. ที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นจากข้อตกลงที่กรุงปารีส แต่ประเทศส่วนใหญ่ รวมทั้งสหรัฐฯและจีนกลับล้มเหลวไม่สามารถประกาศมาตรการใหม่ๆที่ส่งผลดีขึ้นได้