ความหวังเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนมืดมน
วอชิงตัน (รอยเตอร์) – ความคาดหวังถึงความก้าวหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนดูจะมืดมนลงในวันที่ 7 ต.ค. หลังจากสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำบริษัทของจีนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติของจีนที่มีต่อชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยมุสลิม และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ย้ำว่า ไม่มีแนวโน้มว่าจะมีการทำข้อตกลงการค้าอย่างรวดเร็วในช่วงนี้
ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ที่ขึ้นบัญชีดำ 28 หน่วยงานความมั่นคงและบริษัทของจีน ทำให้ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯและจีนร้าวลึกและตึงเครียดยิ่งขึ้นในช่วงเวลา 15 เดือนของสงครามการค้าระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินและทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว
อีกจุดหนึ่งที่สั่นคลอนความสัมพันธ์ของสองมหาอำนาจมาจากทวีตของผู้จัดการทีมบาสเกตบอล NBA ชื่อดังอย่าง ‘ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์’ ที่ระบุว่า เขาสนับสนุนการประท้วงของชาวฮ่องกง ทำให้จีนไม่พอใจ และสถานีโทรทัศน์ CCTV งดการถ่ายทอดสดการแข่งขันของทีมนี้ทุกเกม หลังจากนั้น เขาได้ลบทวีตอย่างรวดเร็วและขอโทษแฟนคลับในจีน
ประธานาธิบดีทรัมป์ และแลร์รี คัดโลว์ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจระบุถึงการเจรจากับจีนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการเจรจาระดับสูงครั้งแรกในรอบกว่าสองเดือน แต่ทรัมป์ยืนยันว่า เขาไม่พอใจหากเป็นการทำข้อตกลงเพียงบางส่วน
“ ผมคิดว่าโอกาสที่เราสามารถทำอะไรได้มีให้เห็นเป็นรูปธรรมมากๆ” ทรัมป์กล่าว โดยอ้างถึงกำหนดการเจรจาการค้าระดับสูงในปลายสัปดาห์นี้ “ผมจะพอใจมากกว่าหากเป็นข้อตกลงใหญ่อย่างที่เราหวัง ”
ทำเนียบขาวยืนยันอย่างเป็นทางการถึงกำหนดการเจรจาระดับสูงในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ซึ่งจะมีรองนายกรัฐมนตรีหลิวเฮ่อของจีนเป็นหัวหน้าคณะเจรจาของจีน ขณะที่โรเบิร์ต ไลไธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และสตีเวน มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เป็นหัวหน้าคณะของสหรัฐฯ
โดยการเจรจาจะมีขึ้นก่อนกำหนดการขึ้นภาษีของสหรัฐฯกับสินค้าจีนจาก 25% เป็น 30% ประมาณหนึ่งสัปดาห์ โดยทรัมป์ระบุว่ากำหนดขึ้นภาษีเพิ่มเติมรอบใหม่ของสหรัฐฯคือ 15 ต.ค. หากการเจรจาไม่บรรลุผล
แม้การเจรจาการค้าดูจะมีแนวโน้มที่มืดมน แต่ในวันที่ 7 ต.ค.กระทรวงเกษตรสหรัฐฯรายงานตัวเลขการส่งออกถั่วเหลืองไปจีนที่เพิ่มขึ้น โดยจีนทำข้อตกลงซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ จำนวน 3.5 ล้านตันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.ย.
แม้ทรัมป์จะแน่ใจว่าคงไม่มีการทำข้อตกลงทางการค้าได้ในเร็วๆนี้ แต่เขาก็ชื่นชมที่จีนซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ จำนวนมาก.