ผู้ลี้ภัยขายอวัยวะเพื่อไปยุโรป

การค้าอวัยวะมนุษย์ผิดกฎหมายในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้เนื่องจากผู้ลี้ภัยชาวซีเรียต้องการหาเงินเพื่อเป็นค่าลักลอบเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยุโรป
ชายชาวซีเรียคนหนึ่งชื่อมายาร์ หลบหนีภัยสงครามจากบ้านในซีเรียเข้ามาในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ด้วยความหวังว่าจะสามารถหาเงินและดูแลครอบครัวในเมืองนี้ได้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
“ ผมไม่รู้ว่าจะได้เงินแค่ไหนถ้าผมขายไตของผม แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ชีวิตในอียิปต์ต้องใช้เงินมาก” เขาให้ข้อมูล
มายาร์เล่าว่าเมื่อเดือนที่แล้ว เขาโพสต์ขายไตในกลุ่มเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า“ ขายไตออนไลน์” โดยบรรยายว่า “ เขาเป็นหนุ่มชาวซีเรียที่พักอยู่ในอียิปต์ เลือดกรุ๊ป โอ สนใจที่จะบริจาคไตเพื่อแลกกับเงินจำนวนหนึ่งที่จะช่วยให้เขาอยู่รอดได้ในขณะนี้ โปรดตอบกลับโดยเร็วที่สุด ”
ทั้งนี้ ราคาที่แสดงอยู่ในเพจโซเชียลมีเดียนี้เป็นราคาไตจากทั่วโลก โดยมีตั้งแต่ 650 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในเคนยาจนถึง 300,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในแอฟริกาใต้และยุโรป ซึ่งเป็นราคาเพียงพอที่ผู้ลี้ภัยจะจ่ายเป็นค่าลักลอบเดินทางประมาณ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคนสำหรับตั๋วเรือเที่ยวเดียวข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
โดยผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ทั้งอียิปต์และตุรกีกลายเป็นพื้นที่การค้าอวัยวะมนุษย์ที่คึกคักที่สุด เนื่องจากจำนวนผู้ลี้ภัยและผู้อพยพที่มีเป็นจำนวนมาก เงินส่วนใหญ่ไม่เพียงแต่หมุนเวียนในเครือข่ายอาชญากรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มก่อการร้ายด้วยเช่นกัน
ศาสตราจารย์ดูมินดา วิเจเซเครา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการฟอกเงินจากมหาวิทยาลัยจอร์จเมสันในเวอร์จิเนียให้ข้อมูลกับสำนักข่าวของออสเตรเลียว่า เงินจำนวนนี้จะเป็นเงินที่หล่อเลี้ยงสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายไอเอสทั้งทางตรงและทางอ้อม
“ กลุ่มคนที่ได้รับเงินเหล่านี้ แท้จริงทำงานให้กับพวกลักลอบพาผู้ลี้ภัยเดินทางเข้ายุโรปอย่างผิดกฎหมายเงินที่ได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมจะนำไปสนับสนุนกลุ่มไอเอส บางครั้งคุณไม่ได้จ่ายเงินสดให้องค์กรพวกนี้โดยตรง แต่คุณจ่ายให้กับผู้ค้าอาวุธ พวกเขาสนับสนุนเหล่านักรบ”
จำนวนการค้าอวัยวะมนุษย์เพิ่มขึ้นจนเป็นที่สนใจของกลุ่ม NGO และกลุ่มศาสนาทั่วโลก เมื่อช่วงต้นเดือนก.พ. ทางสำนักวาติกันมีการประชุมในประเด็นของตลาดอาชญากรรมที่กำลังเติบโตขึ้น
“ คนจนจำนวนมากกำลังเป็นเหยื่อของการค้าอวัยวะมนุษย์ เมื่อพวกเขาจำเป็นต้องขายอวัยวะเพื่อโอกาสในการเดินทางไปหาชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม” ทางวาติกันแถลงในการประชุม