ประท้วงฮ่องกงทำพิษ ค้าปลีกดิ่งสุดเดือนส.ค.
ฮ่องกง (บลูมเบิร์ก) – การประท้วงนานหลายเดือนในฮ่องกงส่งผลกระทบมากขึ้นกับเศรษฐกิจของฮ่องกง โดยตัวเลขค้าปลีกลดฮวบลงมากที่สุดในเดือนส.ค.
การประท้วงและปฏิบัติการของตำรวจ ซึ่งทั้งสองอย่างต่างมีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนลดลงถึง 42% ในเดือนส.ค. สั่นคลอนสถานะของฮ่องกงในฐานะฮับช้อปปิ้งในภูมิภาค โดยข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ชี้ว่า มูลค่าการค้าปลีกลดลงถึง 23% โฆษกรัฐบาลระบุว่าผลกระทบร้ายแรงกว่าที่เคยเป็นมา
สินค้าหรูหราราคาแพง เช่น เครื่องประดับและนาฬิกาเป็นของโปรดของนักท่องเที่ยวจีนและมูลค่าของยอดขายลดลงเกือบครึ่งในเดือนส.ค. เนื่องจากการประท้วงลากยาวและบรรดานักท่องเที่ยวและขาช้อปต่างพากันอยู่บ้าน ผู้ค้าปลีกบางรายต้องให้พนักงานลางานโดยไม่จ่ายค่าจ้าง และหลายรายมีแผนจะเลย์ออฟพนักงาน ขณะเดียวกัน เจ้าของที่ดินหลายรายก็ได้รับผลกระทบจากราคาค่าเช่า
เหตุความไม่สงบในฮ่องกงฉุดให้อุตสาหกรรมสินค้าหรูทั่วโลกดิ่งลง และแบรนด์กำลังทบทวนการค้าในฮ่องกง จากข้อมูลของนักวิเคราะห์
Bain & Co มองเห็นสินค้าหรูทั่วโลกเติบโตต่ำสุดอยู่ที่ 4% – 6% จากข้อมูลของนักวิเคราะห์ Claudia d’Arpizio ขณะที่ Rogerio Fujimori นักวิเคราะห์ประจำ RBC Capital Markets ประเมินว่าแบรนด์ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบจากยอดขายที่ลดลงในฮ่องกงระหว่าง 30% – 60% ในไตรมาส 3
หลายแบรนด์หรูกำลังทบทวนการขายในฮ่องกง อย่าง Prada มีแผนจะปิดสาขาร้านที่ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงที่ตั้งอยู่ในเขตคอสเวย์เบย์
“ ฮ่องกงคือหายนะ สำหรับทุกคน” Miuccia Prada ซึ่งเป็นดีไซเนอร์และซีอีโอร่วมของ Prada ให้สัมภาษณ์ในวันที่ 1 ต.ค.หลังแฟชั่นโชว์ในกรุงปารีส
บริษัทกำลังย้ายการลงทุนด้านการตลาดจากฮ่องกงไปที่จีน โดยหวังว่ายอดขายที่จีนจะชดเชยได้
เศรษฐกิจฮ่องกงมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาส 3 โดยจีนเองระบุในสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหากจำเป็น นอกเหนือจากการใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มขึ้นกับมาตรการผ่อนปรนทางเศรษฐกิจ
ร้านค้าขนาดเล็กลงมาปิดตัวลง ที่ผ่านมาในฮ่องกง เขตคอสเวย์เบย์เป็นย่านช้อปปิ้งชั้นนำ แต่ 1 ใน 10 ร้านตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า จากข้อมูลของตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ Midland IC & I
ค่าเช่าในหลายพื้นที่ลดลง เจ้าของที่ดินของร้าน Prada บนถนนรัสเซลเสนอลดราคาค่าเช่าลงให้ถึง 44%
ไม่เพียงแต่นักท่องเที่ยวจะลดจำนวนลง ในเดือนก.ค. มีเพียงตัวเลขช้อปปิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตฮ่องกง ซึ่งเป็นดัชนีหลักที่ไม่มีการลดลง หมายความว่าผู้บริโภคยังใช้จ่ายน้อยลงในด้านน้ำมันเชื้อเพลิง เสื้อผ้า รองเท้าและสินค้าคงทน นอกเหนือจากสินค้าแบรนด์หรู