ซาอุฯเตือนราคาน้ำมันพุ่ง ถ้าไม่หยุดอิหร่าน
วอชิงตัน : เมื่อวันที่ 29 ก.ย. มกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียทรงประทานสัมภาษณ์กับสื่อว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งสูงขึ้น “เป็นตัวเลขที่ไม่อาจคาดเดาได้” หากโลกยังคงไม่ร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งอิหร่าน แต่ทรงตรัสว่า พระองค์ทรงโปรดการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีทางการเมืองมากกว่าที่จะใช้กำลังทางทหาร
“ หากโลกไม่มีการแสดงออกที่แกร่งและมั่นคงเพื่อยับยั้งอิหร่าน เราจะเห็นราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นและเป็นภัยต่อผลประโยชน์ของโลก” มกุฎราชกุมารโมฮัมเมด บิน ซัลมัน กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับรายการทางสถานีโทรทัศน์ CBS
โดยในการสัมภาษณ์ มกุฎราชกุมารทรงระบุว่า พระองค์เห็นพ้องกับไมค์ ปอมเปโอ รมว.กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ว่า การโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของซาอุฯ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ถือเป็นการส่งสัญญาณการทำสงครามจากอิหร่าน
แต่พระองค์ทรงระบุว่า ทรงโปรดการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเพราะ “จะดีกว่าวิธีการทางทหาร”
พระองค์ทรงตรัสเสริมว่าสงครามระหว่างซาอุฯและอิหร่านจะทำให้เศรษฐกิจโลกซบเซาลงอีก
โดยสหรัฐฯ ประเทศในยุโรป และซาอุฯ ต่างกล่าวโทษว่าการโจมตีครั้งนี้เป็นฝีมือของอิหร่าน แต่อิหร่านปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง
พระองค์ยังได้ทรงแนะนำว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯควรจะพบกับประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีแห่งอิหร่านเพื่อทำข้อตกลงใหม่ในโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอิทธิพลที่มีต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง
พระองค์ทรงถูกสื่อตั้งคำถามอีกครั้งถึงความเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมคอลัมนิสต์คนดัง จามาล คาชอกกีที่สถานกงสุลซาอุฯในตุรกี เนื่องจากไม่กี่วันก็จะครบรอบหนึ่งปีที่เขาถูกสังหารเมื่อวันที่ 2 ต.ค.2561 โดยพระองค์ทรงตรัสว่า “ ไม่เกี่ยวข้องเลย”
แต่พระองค์ทรงตรัสว่า ทรงต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ “ เพราะเป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลที่ทำงานให้รัฐบาลซาอุฯ”.