ค้าปลีกสหรัฐฯโต ช่วยหนุนศก.
วอชิงตัน (รอยเตอร์) – ตัวเลขค้าปลีกสหรัฐฯเติบโตขึ้นเกินคาดการณ์ในเดือนส.ค. ชี้ให้เห็นถึงการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังมีเสถียรภาพ ช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
โดยรายงานจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ช่วยผ่อนคลายความกังวลว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ เนื่องจากสหรัฐฯ มีสงครามการค้ากับจีนมานานเกินหนึ่งปี และเศรษฐกิจของจีนเองก็ชะลอตัวลงในรอบหลายปี
คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งในวันที่ 18 ก.ย.นี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสงครามการค้า
เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาไม่ทำนาย หรือคาดการณ์ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่ย้ำว่าเฟดจะยังคงมีนโยบายที่เหมาะสมเพื่อรักษาระดับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปีที่ 11 ต่อเนื่องกัน โดยเฟดได้ปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือนก.ค. นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา
ยอดค้าปลีกเติบโต 0.4% ในเดือนส.ค. โดยได้อานิสงส์จากการใช้จ่ายซื้อยานพาหนะ วัสดุก่อสร้าง สุขภาพและงานอดิเรก โดยข้อมูลเดือนส.ค.ปรับขึ้นเล็กน้อยจากยอดค้าปลีกที่เติบโตขึ้น 0.8% จากเดิม 0.7% ในรายงานก่อนหน้านี้
หากไม่รวมรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้างและบริการอาหาร ยอดค้าปลีกมีการเติบโต 0.3% ในเดือนส.ค.หลังจากหล่นลงมาจากตัวเลขแก้ไข 0.9% ในเดือนก.ค.โดยยอดค้าปลีกหลักเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เป็นปัจจัยสำคัญของ GDP ขณะที่รายงานก่อนหน้านี้ระบุว่าตัวเลขเติบโต 1.0% ในเดือนก.ค.
โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นกว่า 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในอัตราต่อปีที่ 4.7% ในไตรมาส 2
ตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วยหนุนให้ผู้ค้าปลีกลงทุนเพิ่มสินค้าคงคลัง โดยรายงานฉบับที่ 2 ของกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ชี้ว่า สินค้าคงคลังทางธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.ค. หลังจากตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนมิ.ย.
เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเติบโต 1.9% ในไตรมาส 3 โดยในไตรมาสเดือนเม.ย. – มิ.ย.ตัวเลขเศรษฐกิจโต 2.0%
ยอดค้าปลีกออนไลน์เพิ่มขึ้น 1.6% โดยชาวอเมริกันใช้จ่ายมากขึ้นกับงานอดิเรก เครื่องดนตรี และร้านหนังสือ ทำให้ยอดขายโต 0.9%
แต่ยังมีบางส่วนในรายงานค้าปลีกที่ตัวเลขอ่อนแรงลง โดยยอดค้าปลีกเสื้อผ้าที่ร้านลดลง 0.9% ในเดือนส.ค. ขณะที่ยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
โดยยอดขายเฟอร์นิเจอร์ลดลง 0.5% เป็นตัวเลขที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 8 เดือน ชาวอเมริกันยังลดการใช้จ่ายในร้านอาหารและบาร์ ทำให้ยอดขายลดลง 1.2% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2561.