ยักษ์ใหญ่ไฮเทคประณามภาษีดิจิทัลฝรั่งเศส
วอชิงตัน : เมื่อวันที่ 19 ส.ค.บริษัทยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีอเมริกันอย่างอเมซอน เฟซบุ๊กและกูเกิลผนึกกำลังกันเพื่อประณามภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศสว่ามีผลย้อนหลังและเลือกปฏิบัติ
ประธานาธิบดีโดนัลลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำลังพิจารณาตอบโต้ภาษีนี้ (ซึ่งอนุมัติในวันที่ 11 ก.ค.) ด้วยการขึ้นภาษีไวน์นำเข้าจากฝรั่งเศส รวมถึงเตรียมพร้อมจะมีการสอบสวนโดยสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR)
กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ GAFA (กูเกิล อเมซอน เฟซบุ๊ก แอปเปิล) ยื่นคำร้องต่อ USTR เพื่อให้มีมาตรการโต้ตอบและมีมติเป็นเอกฉันท์ในคำร้องร่วมกัน โดยเรียกภาษีนี้ว่า
“ขนบธรรมเนียมที่สร้างปัญหา”
โดยรายละเอียดของภาษีนี้คือ จะจัดเก็บภาษีอัตรา 3% ของรายได้รวมต่อปีของบริษัทที่ให้บริการผู้บริโภคในฝรั่งเศส โดยจัดเก็บเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งส่วนมากเป็นบริษัทอเมริกัน
สำหรับความเห็นของอเมซอน ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซอันดับ 2 ในยุโรป มีการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อน โดย 58% ของการขายของอเมซอนมาจากบริษัทคู่ค้า ซึ่งจะได้รับผลกระทบ
ภาษีนี้ “ส่งผลกระทบด้านลบกับอเมซอนและบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางหลายพันบริษัท” Peter Hiltz ผอ.ฝ่ายวางแผนภาษีของอเมซอนระบุ
“อเมซอนไม่สามารถรองรับค่าใช้จ่ายนี้ได้” และบริษัท “ ได้แจ้งคู่ค้าว่าจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยจะเริมมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.” เขาเสริม
บริษัทยักษ์ใหญ่บางแห่งได้รับสิทธิพิเศษจากบางประเทศให้เสียภาษีในอัตราต่ำ เช่นไอร์แลนด์ ขณะที่แทบไม่จ่ายภาษีเลยในประเทศอื่นๆ แต่กอบโกยกำไรได้มหาศาล
สหรัฐฯพยายามผลักดันข้อตกลงที่ครอบคลุมเรื่องภาษีดิจิทัลผ่านการประชุมเศรษฐกิจกลุ่มประเทศ G20 แต่ฝรั่งเศสกลับผลักดันกฎหมายของประเทศตัวเองไปก่อน
Jennifer McCloskey จาก สภาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศระบุว่า นี่เป็น “การแก้ไขปัญหาที่ไม่สมบูรณ์ของระบบภาษีที่ล้าสมัย” โดยเธอสนับสนุนข้อตกลงพหุภาคีภายใต้การควบคุมดูแลขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)
ภาษีจะบังคับใช้กับประมาณ 30 บริษัทที่มียอดขายอย่างน้อย 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (866 ล้านบาท ) ในฝรั่งเศส และ 831 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (25,727 ล้านบาท) ทั่วโลก แต่จะไม่บังคับใช้กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในส่วนอื่น อย่างบริษัทสื่อ
ภาษีแตะ “ธุรกิจอินเทอร์เน็ตแค่หยิบมือเดียว ขณะที่ทุกภาคส่วนกลายเป็นดิจิทัลหมดแล้ว” Nicholas Bramble ของกูเกิลระบุในการไต่สวน การเก็บภาษีเฉพาะส่วนนี้ของอุตสาหกรรม “ไม่สมเหตุสมผล”
บริษัทยังร้องเรียนว่าภาษีนี้มีผลย้อนหลัง ทั้งที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ต้นปี 2563 นี่เป็นสิ่งที่ “ไม่เคยเห็น” มาก่อน จากความเห็นของ Alan Lee จากเฟซบุ๊ก.