หลายร้อยคนร่วมพิธีศพเหยื่อกราดยิงเอลปาโซ
เมื่อภรรยา มาร์กี เรคคาร์ด วัย 63 ปีเสียชีวิตในเหตุกราดยิงในห้างวอลมาร์ท ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 22 รายในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ อันโตนิโอ บาสโก ผู้เป็นสามีคิดว่าเขาคงจะต้องอยู่ในพิธีศพเธออย่างเดียวดาย จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น
ดังนั้นเขา ในวัย 61 ปี ซึ่งแต่งงานกับภรรยามานานกว่าสองทศวรรษและไม่มีครอบครัว จึงได้ขอให้สถานประกอบพิธีศพโพสต์เรื่องนี้ต่อสาธารณะ
มีกว่าหนึ่งหมื่นข้อความ และมากกว่า 900 ช่อดอกไม้ที่หลั่งไหลเข้ามาถึงเขา โดยจำนวนหนึ่งมาไกลจากเอเชีย จากการรายงานของสื่อนิวยอร์กไทม์
และในช่วงบ่ายวันที่ 16 ส.ค.มีผู้คนประมาณ 700 คนที่มายืนเข้าแถวไปตามถนน ซึ่งมีอากาศร้อนและอุณหภูมิสูงถึง 38 องศาเซลเซียส เพื่อเข้าร่วมแสดงความเคารพในพิธีศพของภรรยาเขา
การขานรับในเรื่องนี้อย่างท่วมท้น ทำให้ต้องย้ายสถานที่ประกอบพิธีให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
ทุกคนต้องยืนในห้องประกอบพิธี รวมทั้งนักดนตรีและนักร้อง และมีดอกไม้อยู่เต็มไปหมดทั้งห้อง
“มันน่าเหลือเชื่อมาก” บาสโกปาดน้ำตาขณะกล่าวในพิธี และมีการโพสต์วีดีโอของเขาโดยสื่อท้องถิ่น
ขณะที่หลายคนเดินทางมาจากเมืองอื่น หรือแม้แต่รัฐอื่น หลายคนเป็นสมาชิกในชุมชนที่ขวัญเสียจากเหตุกราดยิงรุนแรงและทำให้เมืองนี้เป็นจุดสนใจของทั้งสหรัฐฯ
สื่อในสหรัฐฯรายงานว่า แม้ทั้งสองคนจะไม่มีลูก แต่ลูกของเธอจากการแต่งงานครั้งก่อนได้เดินทางมาเข้าร่วมในพิธีด้วย
ทั้งนี้ มีพิธีฝังร่างของเรคคาร์ด ในวันที่ 17 ส.ค.เวลา 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นที่สุสาน Restlawn ในเอลปาโซ
ก่อนลงมือก่อเหตุกราดยิง มือปืนวัย 21 ปีได้โพสต์ข้อความออนไลน์แสดงถึงความภูมิใจในความเป็นคนขาวที่เหนือกว่าชาติพันธุ์อื่น และประณามการรุกรานของพลเมืองเชื้อสายสเปนในรัฐเท็ซัส
เอลปาโซเป็นเมืองชายแดนสหรัฐฯติดกับเม็กซิโก มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 680,000 คน โดย 83% ของประชากรในเมืองเป็นผู้ที่มีเชื้อสายสเปน
หลังเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญในเมืองเอล ปาโซเกิดขึ้น ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ก็มีเหตุร้ายที่มือปืนในเมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ ลงมือยิงสังหารเหยื่อเสียชีวิตไปถึง 9 ราย ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้มีการควบคุมการใช้อาวุธปืนในสหรัฐฯ ขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ อาวุธปืนทำให้เกิดเหตุร้ายและคร่าชีวิตชาวอเมริกันไปเกือบ 40,000 คนในสหรัฐฯในปี 2560 จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ.