แฟลชม็อบพนักงานการเงินในฮ่องกง
ฮ่องกง (บลูมเบิร์ก) – พนักงานฝ่ายการเงินในฮ่องกงมาร่วมตัวชุมนุมกันในย่านศูนย์กลางธุรกิจในวันที่ 1 ส.ค. หลังจากเลิกงาน เป็นการประท้วงแบบแฟลชม็อบ (คือ นัดหมายเวลาชุมนุมกันแบบฉับพลัน) นับเป็นการประท้วงครั้งล่าสุดของฮ่องกง
พนักงานหลายร้อยคนจากหลายบริษัทในด้านการธนาคารและการเงินมารวมตัวกันหนาแน่นที่ Chater Garden ในคืนวันที่ 1 ส.ค. ใกล้กับออฟฟิศของบริษัทรายใหญ่รวมทั้งอาคารธนาคาร HSBC Holdings, Goldman Sachs Group และ Standard Chatered โดยคนกลุ่มนี้รวมตัวกันในสวนขณะที่มีฝนตก ส่วนใหญ่สวมชุดพนักงานและกางร่ม
ผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ส่วนใหญ่อยู่ในความสงบ แต่เริ่มมีการตะโกนขึ้นมาในช่วงใกล้จะครบ 30 นาที ทั้ง “ตำรวจเลว น่าอาย” และ “ไม่มีคนก่อการจลาจล มีแต่เผด็จการ”
ช่วงต้นสัปดาห์ก่อนหน้านี้ มีผู้ประท้วงถูกจับกุมตัวในช่วงสุดสัปดาห์จากการปะทะกับตำรวจ ในข้อหาก่อการจลาจลที่มีโทษจำคก 10 ปี ก่อให้เกิดความไม่พอใจจากกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย
“ บริษัทของพวกเราอาจไม่สนับสนุนเราให้พูดเรื่องการเมือง แต่เราไม่ควรเพิกเฉย ไม่แยแสกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ” อัลเฟรด อาสาสมัครแฟลชม็อบ และพนักงานธนาคารในพื้นที่ ซึ่งปฏิเสธจะเปิดเผยนามสกุลกล่าว “ โดยรวมแล้ว มันมาถึงจุดที่เราควรออกมาและทำอะไรบางอย่าง ”
แฟลชม็อบเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของการประท้วงในฮ่องกงที่มีมานานหลายสัปดาห์เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน และลุกลามกลายเป็นการบีบให้แคร์รี แลม ผู้ว่าการฮ่องกงลาออก
South China Morning Post รายงานว่า พนักงานหลายร้อยคนจาก 34 ธนาคารเข้าร่วมในการเรียกร้องให้มีการนัดหยุดงานประท้วงการรับมือเหตุความไม่สงบของรัฐบาล โดย 95 สหภาพจากภาครัฐและภาคเอกชนต่างออกเสียงสนับสนุนด้วย
พนักงานฝ่ายการเงินใน Chater Garden ต่างยินดีที่จะมีผู้เข้าร่วมกับพวกเขาเพิ่มมากขึ้น “ เราแทบไม่พูดเรื่องการเมืองในออฟฟิศ เพราะเพื่อนร่วมงานหลายคนสนับสนุนรัฐบาล และหลายคนอาจกลัวว่าจะถูกบริษัทกดดัน ” มอลลี หว่อง ซึ่งทำงานในธนาคารและเข้าร่วมการประท้วงมาตลอดสองเดือนกล่าว
ฮ่องกงซึ่งเป็นฮับการเงินเริ่มได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการประท้วง โดยยอดค้าปลีกลดลง 6.7% ในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการลดลง 5 เดือนต่อเนื่อง จากรายงานของรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 ส.ค. และนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลงกว่า 1.9%
“ในเวลาเช่นนี้ เราไม่ควรคิดว่าเราเป็นตัวแทนอุตสาหกรรมใด” ไรอัน ซึ่งทำงานด้านการจัดการกองทุน และปฏิเสธจะบอกนามสกุลกล่าว “ มันเกี่ยวกับสำนึกของคน บอกสิ่งที่ถูกต้อง ขณะที่คนอื่นๆบิดเบือนความจริง”