คลื่นความร้อนโจมตีสหรัฐฯ
นิวยอร์ก : เมื่อวันที่ 20 ก.ค. คลื่นความร้อนลูกใหญ่เคลื่อนเข้าปกคลุมทางตอนกลางและตะวันออกของสหรัฐฯ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องไปคลายร้อนยังสถานที่ต่าง ๆ และทำให้อากาศในสหรัฐฯพุ่งขึ้นสูงถึง 41 องศาเซลเซียส ซึ่งทำให้สภาพอากาศเลวร้ายกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
อเล็กซ์ แลเมอร์ส์ นักอุตุนิยมวิทยาจากศูนย์พยากรณ์อากาศ ภายใต้การดูแลของสำนักงานอากาศแห่งชาติ ระบุว่า “สภาพอากาศจากพื้นที่ราบไปจนถึงมิสซิสซิปปี วัลเล่ย์ทางชายฝั่งตะวันออกตอนนี้ร้อนมากๆ เลย”
อ้างอิงจากสำนักงานอากาศเผยว่า ความร้อน เป็นปรากฎการณ์ทางอากาศที่ร้ายแรงมากที่สุด และในหลายๆ เมือง ตั้งแต่ชิคาโกถึงนิวยอร์ก ได้มีการกระตุ้นให้ประชาชนมองหาที่หลบคลื่นความร้อนอย่างศูนย์ให้ความเย็นที่ตั้งอยู่ในหลายพื้นที่ ยกตัวอย่างเช่นในห้องสมุด และห้างสรรพสินค้า
นักท่องเที่ยวที่เยื่ยมเยือนอนุเสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์ที่เนชันแนล มอล ในวอชิงตัน ต้องรับมือกับอุณหภูมิที่สูงเกือบ 37.8 องศาเซลเซียส
เดียนา แกมเบิล ตัวแทนหญิงของเมืองระบุว่า มีผู้สูงอายุราว 250 ราย ที่เดินทางกลับบ้านเมื่อวันที่ 20 ก.ค. หรือหลังจากที่ต้องออกจากชุมชนผู้สูงอายุในฟิลาเดลเฟียเพราะไฟฟ้าขัดข้อง ทำให้เครื่องปรับอากาศใช้งานไม่ได้ แต่ละรายจึงต้องหลบคลื่นความร้อนในที่หลบภัยชั่วคราว ณ โรงเรียนมัธยมปลายฟิลาเดลเฟีย
แม้จะเป็นช่วงกลางคืน แต่อุณหภูมิในช่วงที่คลื่นความร้อนปกคลุมก็ยังคงสูงเช่นเดิม นับตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ทางแถบมิดเวสต์ ทำให้เมื่อวันที่ 19 ก.ค. กลายเป็นครั้งแรกของเมืองร็อคฟอร์ด รัฐอิลลินอยส์ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2461 ที่อุณหภูมิไม่ลดลงต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิที่สูง บวกกับความชื้นที่สูง ทำให้รู้สึกว่าอากาศร้อนยิ่งขึ้น โดยเรียกกันว่า ดัชนีระดับความร้อน หรือ Heat Index
แลเมอร์ส์ ระบุว่า “ดัชนีความเครียดจากความร้อน(heat stress)มีแนวโน้มว่าจะมีผลกระทบสะสม ดังนั้นหากประชาชนไม่รีบคลายร้อนหรือฟื้นตัวในตอนกลางคืน ยิ่งโดยเฉพาะครัวเรือนที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ก็จะสะสมค่าดัชนีระดับความร้อนให้มากยิ่งขึ้น”
“เมื่ออุณหภูมิตอนกลางคืนค่อนข้างอุ่น จะทำให้วันต่อไปมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นตามไปด้วย”
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ในช่วงกลางวันดัชนีระดับความร้อนของบอสตันสูงถึง 39 องศาเซลเซียส และคาดว่าจะสูงขึ้นได้ถึง 40 องศาเซลเซียส ในช่วงบ่าย ส่วนนิวยอร์กมีดัชนีระดับความร้อนอยู่ที่ 38 องศาเซลเซียส และจะสูงขึ้นถึง 43 องศาเซลเซียส ด้านวอชิงตันอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียสและจะสูงขึ้นเป็น 44 องศาเซลเซียส
กิจการกลางแจ้งส่วนใหญ่ อย่างกิจกรรมไตรกีฬาในนิยวอร์ก และการแข่งวิ่งในวอชิงตันถูกยกเลิกแล้ว นอกเหนือจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนกฎในการร่วมกิจกรรมกลางแจ้งหลายประเภทให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกเย็นสบายและปลอดภัย โดยสามารถพกขวดน้ำและร่มของตนเองเข้าร่วมด้วย และยังแจกจ่ายน้ำให้ในงานอีกด้วย.