‘มุน’ คะแนนนิยมพุ่งสูงสุดในรอบ 7 เดือน
โซล (บลูมเบิร์ก) – คะแนนความนิยมในตัวประธานาธิบดีมุนแจอินแห่งเกาหลีใต้พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 7 เดือน หลังมีภาพเขายืนเคียงข้างกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯและประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือที่พรมแดนระหว่างสองเกาหลี หนุนเป้าหมายของเขาในการเลือกตั้งสภาเดือนเม.ย.ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
โดยคะแนนความนิยมในตัวประธานาธิบดีมุนเพิ่มขึ้น 4.8% จากสัปดาห์ก่อนมาอยู่ที่ 52.4% จากโพล Realmeter ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อ 2 – 3 เดือนก่อน คะแนนความนิยมของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลเกาหลีใต้ดิ่งเหวลงจากการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือที่ล้มเหลว และตัวเลข GDP ของเกาหลีใต้ลดลงต่ำสุดในรอบเกือบทศวรรษ
อีกข่าวดีของประธานาธิบดีมุน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขาในการเป็นสะพานเชื่อมความแตกต่างระหว่างผู้นำสหรัฐฯและผู้นำเกาหลีเหนือ คือเสียงสนับสนุนสำหรับฝ่ายค้านหลักของเขาที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมอย่างพรรค Liberty ลดค่ำลงมากที่สุดในรอบ 4 เดือน จากผลโพลที่จัดทำขึ้นในวันที่ 1 – 3 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยประธานาธิบดีมุนกล่าวชื่นชมการประชุมซัมมิตของทรัมป์ – คิมในเขตปลอดทหาร (DMZ) เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่าเป็นหลักชัยแห่งสันติภาพ
ในการประชุมที่จัดขึ้นอย่างเร่งรีบที่ DMZ ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งยังอยู่ในตำแหน่งคนแรกที่ได้เหยียบแผ่นดินเกาหลีเหนือ และได้พูดคุยกับประธานาธิบดีคิมนานเกือบชั่วโมง ซึ่งนำไปสู่การตกลงที่จะกลับมาเจรจาเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง หลังการประชุมครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอยของเวียดนามล่มเมื่อเดือนก.พ.ปีนี้
การพูดคุยกันที่ DMZ ถือเป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่เป็นการพบกัน 3 ฝ่ายเป็นครั้งแรกระหว่างทรัมป์ คิม และมุน โดยในวันนั้น จะเห็นได้ว่ามุนระมัดระวังที่จะไม่ทำตัวเด่นเกินไป เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ให้ทำข่าวเน้นความสำคัญไปที่ทรัมป์และคิมมากกว่าตัวเขา
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมุนกำลังผชิญกับสถานการณ์ตึงเครียดทางเศรษฐกิจในประเทศเกาหลีใต้เอง เนื่องจากนโยบายสำคัญของเขาคือการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ถูกกล่าวหาว่าส่งผลกระทบอย่างหนัก ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น มากกว่าที่จะเพิ่มรายได้ให้กับประ
ชาชนอย่างแท้จริง.