คลื่นความร้อนทำเยอรมนีร้อนทุบสถิติ
(CNN) – อุณหภูมิเยอรมนีพุ่งสูงทำลายสถิติเดิมในวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปกำลังเผชิญคลื่นความร้อน
กรมอุตุนิยมวิทยาของเยอรมนีระบุว่า อุณหภูมิสูงถึง 38.6 องศาเซลเซียสในเวลา 14.50 น. ตามเวลาท้องถิ่นในเมือง Coschen ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศโปรตุเกส
โดยสถิติอุณหภูมิสูงสุดเดิมอยู่ที่ 38.5 องศาเซลเซียส ซึ่งวัดได้ในปี 2490 ที่เมือง Bühlertal ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับประเทศฝรั่งเศส
สถิติเดิมของอุณหภูมิสูงสุดอยู่มานานถึง 72 ปี แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติและความรุนแรงของคลื่นความร้อนในปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรป
นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าคลื่นความร้อนเช่นนี้กำลังจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นและรุนแรงขึ้น เพราะวิกฤตอุณหภูมิ โดย Météo-France ซึ่งเป็นสำนักพยากรณ์อากาศของฝรั่งเศส ระบุว่า คาดการณ์ว่าคลื่นความร้อนจะเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2593
คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 40 องศาเซลเซียสในหลายเมืองใหญ่ของยุโรป โดยนักพยากรณ์อากาศเตือนว่าความชื้นที่สูงขึ้นอาจทำให้รู้สึกว่าอากาศร้อนขึ้นด้วย
อุณหภูมิเดือนมิ.ย.ที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ยังเกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านอย่างโปแลนด์ด้วย โดยนักอุตุนิยมวิทยาวัดอุณหภูมิได้ถึง 38.2 องศาเซลเซียส
กรมอุตุนิยมวิทยาในเบลเยียม, สาธารณรัฐเชค ,ฝรั่งเศส , เยอรมนี , อิตาลี , สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ ต่างออกประกาศคำเตือน โดยแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงกลางวันและช่วงบ่าย ดื่มน้ำมากๆ และหลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเด็กและผู้สูงอายุมีความเสี่ยงมากกว่าคนวัยอื่น
คลื่นความร้อนในยุโรปเคยทำให้มีผู้เสียชีวิตในอดีต ทำให้ทางการในหลายประเทศมีหลายมาตรการเพื่อรับมือ อย่างน้อยก็เพื่อช่วยบรรเทาให้คนส่วนใหญ่
กระทรวงสาธารณสุขในหลายประเทศกำลังพยายามป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำรอยในปีที่แล้ว เมื่อคลื่นความร้อนส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตในสเปนและโปรตุเกส และเกิดภาวะแห้งแล้งในเยอรมนีและสวีเดน
ในปี 2546 ที่คลื่นความร้อนถล่มยุโรปอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตกว่า 14,000 คนเฉพาะในฝรั่งเศสประเทศเดียว
เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ศาลาว่าการกรุงปารีสผลักดันแผนในการติดตั้งฝักบัวละอองฝน 48 อันไว้ทั่วทั้งเมือง มีการขยายเวลาใช้สระว่ายน้ำสาธารณะออกไป เปืดสวนสาธารณะตลอดทั้งคืน และเปิดห้องที่มีอากาศเย็นในอาคารสาธารณะ
ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการสั่งเลื่อนการสอบระดับชาติของโรงเรียนในฝรั่งเศสออกไปเป็นสัปดาห์หน้า นับเป็นครั้งแรกของฝรั่งเศส.