คนฮ่องกงแห่สักที่ระลึกการประท้วง
ฮ่องกง: ขณะที่ช่างสักกำลังถมหมึกสีดำในรอยสักรูปดอกชงโค ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำเกาะฮ่องกง บนต้นขาของ ‘ซี’ หญิงสาวรายหนึ่ง เธอได้ระบุว่า การแสดงความเป็นกบฎในแบบที่ไม่มีวันลบออก จะเป็นเครื่องเตือนความจำเกี่ยวกับฤดูร้อนนี้ที่มีการประท้วงครั้งยิ่งใหญ่ไปตลอดกาล
นางสาวซี พนักงานด้านการเงินที่ไม่ขอระบุนาม ระบุว่า “ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี ฉันจะยังคงจดจำปีนี้ไปตลอด ฉันตัดสินใจลุกขึ้นสู้เพื่ออิสรภาพ และสู้เพื่อสิ่งที่ฉันแคร์”
ผู้คนมากมายเริ่มสักและวาดลวดลายบนร่างกาย ตั้งแต่รูปร่ม และตัวอักษรจีนลายพู่กัน ไปจนถึงหน้ากากกันแก๊ซและหมวกนิรภัย เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้ประท้วงที่ต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงและผู้สนับสนุนจากจีนแผ่นดินใหญ่
ดอกชงโค เป็นดอกไม้ประจำเกาะฮ่องกง และมักจะเป็นสีแดง แต่รอยสักของ ซี กลับเป็นสีดำ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงร่องรอยของปัญหาที่กำลังปกคลุมฮ่องกงอยู่
นอกจากนี้ยังไม่มีรูปดาว 5 ดวงที่ประดับอยู่บนกลีบดอกไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจีนและพรรคคอมมิวนิสต์ในรอยสักอีกด้วย ถือเป็นการเคลื่อนไหวของชาวฮ่องกงส่วนใหญ่ที่อยากจะแยกตัวจากจีนแผ่นดินใหญ่
นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาที่มีการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปีของฮ่องกงเกิดขึ้น ทำให้ช่างสักและร้านรับสักหลายแห่งได้รับคำขอให้สร้างสรรค์ผลงานที่แสดงถึงการประท้วงในครั้งนี้มากมาย
โดยหนึ่งในนั้นยังรวมไปถึงรอยสักที่โด่งดัง ซึ่งเมื่อมองจากมุมหนึ่งจะอ่านได้ว่า “ฮ่องกง” และจากอีกมุมหนึ่งจะอ่านได้ว่า “add oil” หรือคำให้กำลังใจในภาษากวางตุ้งที่อ่านว่า ก๊าเหยา ซึ่งเป็นวลีติดหูในการประท้วงของฮ่องกง
ไอริส แลม วัย 28 ปี ช่างสักซึ่งกลายเป็นที่รู้จักจากรอยที่คล้ายตัวอักษรวิจิตร ระบุว่า “การสักเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณมีอำนาจควบคุมร่างกายของคุณได้ค่ะ”
“มันช่วยให้ผู้คนฉุกคิดถึงอิสระทางการพูดและแม้แต่อิสระทางความคิดอีกด้วยค่ะ”
วินเซนต์ เหยา ช่างสักชาวฮ่องกงอีกรายระบุว่า ความสำคัญของการประท้วงที่กำลังเดินหน้าในครั้งนี้เป็นสิ่งที่รวมประชาชนเข้าด้วยกัน
“ผู้คนมากมายอยากจะจดจำและสร้างสัญลักษณ์เป็นอนุสรณ์ความทรงจำเกี่ยวกับการประท้วงในครั้งนี้ และรอยสักต่างๆ ก็เป็นวิธีหนึ่งที่คุณได้บอกกับตัวเองว่า คุณเคยเป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ครับ”
สตูดิโอของนายวินเซนต์ รับสักฟรีเกือบทั้งหมด โดยเขาบอกว่า “เป็นวิธีของพวกเราในการสนับสนุนการเคลื่อนไหวในครั้งนี้”
ด้านนางสาวไอริสระบุว่า วงการสักยิ่งผนึกกำลังกันแน่นหนาขึ้นเพราะการประท้วงในฮ่องกง เธอบอกว่า “ศิลปะคือพลัง ที่จะช่วยส่งต่อความคิด หรือแม้แต่ซื้อใจผู้คน หรือจุดประกายผู้คนค่ะ”
เธอยังได้มีส่วนร่วมในการสร้างโปสเตอร์และงานศิลปะที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของฮ่องกงอีกด้วย
เมื่อถูกถามว่า เธอกลัวผลสะท้อนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเธอแสดงท่าทีสนับสนุนการประท้วงอย่างแรงกล้าแบบนี้หรือไม่ เธอตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ไม่ค่ะ” เธอยักไหล่ “ฉันก็ยังสักในคุกได้อยู่ดี”