ทรัมป์สั่งลดราคายา
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้องให้ผู้บริหารบริษัทยาลดราคายาที่แพงมหาโหดลง
ในระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาวกับเหล่าผู้บริหารสูงสุดของบริษัทยา ประธานาธิบดีทรัมป์บอกให้บริษัทเหล่านี้ผลิตยาเพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เขาได้สัญญาว่าจะช่วยบริษัทเหล่านี้ด้วยการเร่งอนุมัติยาตัวใหม่ๆ ให้ออกสู่ผู้บริโภคเร็วขึ้นและลดภาษีลงด้วย
คำมั่นของผู้นำสหรัฐฯ หนุนให้มูลค่าหุ้นของบริษัทผู้ผลิตยายักษ์ใหญ่หลายรายพุ่งทะยานขึ้นเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผู้ผลิตยาต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมืองสหรัฐฯ รวมถึงประธานาธิบดีทรัมป์เองด้วยและจากบริษัทประกันและกลุ่มคนไข้ในเรื่องของราคายาใหม่ที่สูงลิ่วและราคาที่พุ่งขึ้นไปอีกในส่วนยาที่ผลิตมานานหลายประเภท
โดยในกลุ่มของผู้บริหารระดับสูงมาจากบริษัท Merck, Johnson & Johnson, Novartis, Amgen และผู้บริหารกลุ่มวิจัยและผลิตยาของอเมริกา (PhRMA)
“ บริษัทผลิตยาในสหรัฐฯ ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ยาใหม่ๆ สำหรับประเทศของเราก็จริง แต่ราคาก็แพงเกินไปสำหรับประเทศเราด้วย เราต้องทำให้ดีกว่านี้ ” ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวในการประชุม
“ เราต้องมีนวัตกรรมที่ดีขึ้น และผมต้องการให้พวกคุณย้ายบริษัทผลิตยากลับเข้ามาอยู่ในสหรัฐฯ ” ผู้นำสหรัฐฯ กล่าว
เพื่อเป็นการช่วยเหลือบริษัทเหล่านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้บอกให้คณะทำงานของเขาลดภาษีลงครั้งใหญ่
“ เราจะรื้อกฎระเบียบที่ไม่จำเป็นออก ” เขาเสริม
โดยประธานาธิบดีทรัมป์สัญญาว่าจะเร่งให้องค์การอาหารและยาอนุมัติยาใหม่ๆ ให้เร็วขึ้น ทำให้หุ้นของ Merck และ Amgen ปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1% และหุ้นของบริษัท Novartis เพิ่มขึ้น 2% ในตลาดหุ้นวอลสตรีท
นักลงทุนเทขายหุ้นในบริษัทผู้ผลิตยาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากการวิจารณ์อย่างหนักจากประธานาธิบดีทรัมป์ว่าควรลดราคาลง ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากส.ว.เบอร์นีย์ แซนเดอร์จากพรรคเดโมแครต
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารระดับสูงจากกลุ่มบริษัทผู้ผลิตยาขานรับข้อเสนอของผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่รัฐบาลจะลดภาษีและคลายกฎระเบียบที่เข้มงวดลง
“ เราเชื่อว่า ถ้านโยบายเป็นจริงได้ จะทำให้มีการจ้างงานถึง 350,000 คนภายใน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของอุตสาหกรรมผลิตยา ” นายสตีเฟน เจ ยูบีไอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PhRMA กล่าว
ในขณะที่ นายโรเบิร์ต แบรด ซีอีโอของบริษัท Amgen กล่าวในการประชุมว่า บริษัทของเขาจะจ้างงานเพิ่มขึ้นอีก 1,600 คนในสหรัฐฯ ซึ่งจะป็นการขานรับนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์.