วิกฤตการเมืองเกาหลีใต้ฉุดยอดนักท่องเที่ยววูบ
ธุรกิจบริการของเกาหลีใต้ตั้งแต่คลินิกศัลยกรรมความงามไปจนถึงบริษัททัวร์และเครือโรงแรมกำลังกังวลถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากวิกฤตการเมืองที่ยืดเยื้อ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติบางส่วนได้ยกเลิกทริป หลังจากที่มีการประกาศกฎอัยการศึกเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ซึ่งทำรายได้ 84.7 ล้านล้านวอน (5.91 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2566 หรือประมาณ 3.8% ของ GDP เคยเผชิญกับอุปสรรคมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการถอดถอนประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 และความตึงเครียดกับเกาหลีเหนือที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกว่าสิบรายจากภาคบริการระบุว่า การที่กองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องในวิกฤตการเมืองครั้งล่าสุดนี้นับเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรง ซึ่งอาจทำให้นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจลังเลที่จะเดินทางมายังเกาหลีใต้ในช่วงที่ภาคการท่องเที่ยวกำลังฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนต.ค.แตะ 97% ของระดับก่อนโควิดระบาด
“มีความกังวลว่าปัญหาความปลอดภัยในกรุงโซลจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” โอ เซฮุน นายกเทศมนตรีกรุงโซลกล่าวเมื่อวันพุธ (11 ธ.ค.) ระหว่างการประชุมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อหารือเกี่ยวกับดีมานด์การท่องเที่ยวที่ลดลง
“มีตัวอย่างเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยกเลิกการเยือนกรุงโซลและลดระยะเวลาพำนักลง” โอกล่าว ก่อนยืนยันกับสื่อมวลชนเป็นภาษาอังกฤษ จีน และญี่ปุ่น ว่า “กรุงโซลนั้นปลอดภัย”
ด้านเครือโรงแรมแอคคอร์ (Accor) ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมหรูอย่างแฟร์มอนท์ (Fairmont) และโซฟิเทล (Sofitel) รายงานว่า มีอัตราการยกเลิกการจองเพิ่มขึ้น “เล็กน้อย” นับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. โดยสูงกว่าเดือนก่อนหน้าประมาณ 5%
สมาคมสตาร์ตอัปการท่องเที่ยวเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) ว่า ยอดการจองห้องพักในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ลดลงอย่างมาก
ทั้งนี้ ชีวิตประจำวันและกิจกรรมการท่องเที่ยวยังคงดำเนินไปตามปกติ แม้มีการประท้วงขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปธน.ยุน ซอกยอลยกเลิกกฎอัยการศึกที่ประกาศใช้ช่วงในสั้น ๆ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. หลังจากรัฐสภาลงมติคัดค้าน โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า กลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลของเกาหลีใต้ดูเหมือนจะยังคงแข็งแกร่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : เกาหลีใต้เผยต่างชาติอาศัยในประเทศเพิ่มขึ้น