ญี่ปุ่นส่งออกฟื้นในรอบ 15 เดือน
ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนธ.ค.ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือน จากยอดขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนรถยนต์ ส่งสัญญาณบวกให้เห็นจากเศรษฐกิจของประเทศที่พึ่งพาการส่งออก ถึงแม้การกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ
อาจส่งผลกระทบไปทั่วภูมิภาคและฉุดดีมานด์จากนอกประเทศ
จากข้อมูลของกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ชี้ว่า ยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบกับตัวเลข 1.2% ต่อปีจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากโพลล์ของรอยเตอร์ โดยตัวเลขส่งออกในเดือนพ.ย.ลดลง 0.4%
การส่งออกในแง่ปริมาณก็เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสองเดือนต่อนื่อง จากดีมานด์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ที่เพิ่งลงนามขอถอนตัวออกจากการทำข้อตกลงทางการค้า TPP เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา
“ ดีมานด์ทั่วโลกกำลังมั่นคงเนื่องจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียสามารถชนะใจลูกค้าในประเทศเศรษฐกิจก้าวหน้าได้ ” นายทาเคชิ มินามิ นักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบันวิจัย โนรินชุคินกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แนะให้มีการจับตามองเศรษฐกิจสหรัฐฯและของโลกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความกังวลว่านโยบายการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลก
โดยนายคุโรดะมองในแง่ดีกับแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลก และกล่าวว่า ทาง BOJ จะรักษาสภาพเศรษฐกิจที่กำลังไปได้ดีนี้และคาดการณ์ว่า จะมีการพิจารณาทบทวนตัวเลขประจำไตรมาสจากบอร์ดบริหารธนาคารในวันที่ 30 – 31 ม.ค.นี้
ในเดือนธ.ค.มูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ (ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่น) เพิ่มขึ้น 1.3% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 10 เดือนจากยานยนต์และขิ้นส่วนรถยนต์
ส่วนยอดส่งออกไปจีน (ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ) เพิ่มขึ้น 12.5% มีมูลค่า 1.3 ล้านล้านเยนจากชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ทั้งนี้ ยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้นในตลาดสำคัญทั้งสหรัฐฯ และจีน ส่งสัญญาณบวกให้กับเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออกของญี่ปุ่น และช่วยธนาคารกลางจากการต่อสู้กับปัญหาเงินฝืดและการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซา
โดยนักวิเคราะห์มองว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงในช่วงสิ้นปี 2559 ช่วยกระตุ้นการส่งออกของญี่ปุ่น และปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อแนวโน้มในภูมิภาคมาจากแรงต้านภายนอก.
หมายเหตุ 100 เยน = 31.81 บาท / 25 ม.ค. 2560