ฮุนไดลงทุนเพิ่มในสหรัฐฯ
ฮุนไดมอเตอร์กรุ๊ปรายงานว่า บริษัทมีแผนจะเพิ่มเงินลงทุนในสหรัฐฯ อีก 50% คือจะมีมูลค่าถึง 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 5 ปีและจะสร้างโรงงานใหม่ในสหรัฐฯ ด้วย นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายล่าสุดที่ขานรับการข่มขู่เรื่องจะขึ้นภาษีนำเข้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์
ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องทำแคมเปญหาเสียงว่าจะเพิ่มงานในอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ให้กลายเป็นนโยบายสำคัญ ทำให้นายทรัมป์ออกมาเตือนว่า จะปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในเม็กซิโกเป็น 35% เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตรถยนต์หลายรายได้เปรียบจากค่าแรงที่ถูกกว่าในเม็กซิโก
บริษัทฮุนไดมอเตอร์และเกียมอเตอร์ซึ่งรวมกันเป็นฮุนไดกรุ๊ปไม่ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยตรงจากนายทรัมป์ แต่อาจจะรู้สึกเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากในบรรดาแบรนด์รถยนต์ชั้นนำ บริษัทของพวกเขาเป็นหนึ่งในหลายบริษัทที่มีสัดส่วนการผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ น้อยที่สุด
นายชุง จิน แฮง ประธานกลุ่มบริษัทฮุนไดปฏิเสธว่า แผนการนี้เกิดจากแรงกดดันของนายทรัมป์ โดยเสริมว่า โรงงานใหม่ในสหรัฐฯ จะขึ้นอยู่กับดีมานด์ที่ปรับเพิ่มขึ้นภายใต้การบริหารของคณะรัฐบาลใหม่
“ เราต้องให้คำมั่นกับตลาดสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญที่สามารถสร้างหรือทำลายความสำเร็จทั่วโลกของเราได้ ” เขาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวในกรุงโซลเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา
โดยกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลีใต้มีแผนที่จะใช้จ่ายเงินถึง 3,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปรับปรุงโรงงานที่มีอยู่เดิมในสหรัฐฯ และจะสนับสนุนการทำวิจัยเรื่องรถยนต์ไร้คนขับ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีอื่นๆในอนาคต อ้างอิงจากคำสัมภาษณ์ของนายชุง
นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า บริษัทกำลังพิจารณาถึงโรงงานแห่งใหม่ในสหรัฐฯ เพื่อผลิตรถยนต์ประเภทเอสยูวี ซึ่งเป็นรุ่นที่มีดีมานด์สูง และรุ่นเจเนซิสที่เป็นรุ่นหรูหราระดับพรีเมียม ซึ่งที่ผ่านมา ผลิตที่โรงงานของฮุนไดที่มอนท์โกเมอรี ในรัฐอลาบามา และโรงงานของเกียในเวสท์พอยท์ รัฐจอร์เจีย
อย่างไรก็ตาม นายโค แท บอง นักวิเคราะห์ยานยนต์ที่ Hi Investment & Securities กล่าวว่า การลงทุนเพิ่มอาจทำให้นายทรัมป์พอใจ แต่บริษัทมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกับการลงทุนในโรงงานใหม่ในสหรัฐฯ
“ นี่อาจเป็นกับดักสำหรับฮุนได ” เขากล่าว โดยอ้างถึงดีมานด์พุ่งสูงในตลาดสหรัฐฯ และยอดขายทั่วโลกที่ลดลงของแบรนด์รถยนต์นี้
เกียเองก็มีโรงงานในเมืองนูเอโว เม็กซิโกด้วย ซึ่งเป็นโรงงานที่ฮุนไดมีแผนจะเริ่มผลิตรถยนต์ในปีนี้
โดยนายชุงกล่าวว่า ฮุนไดและเกียกำลังตกที่นั่งลำบากกับโรงงานในเม็กซิโก เนื่องจากเพิ่งเริ่มผลิตรถยนต์เมื่อปีที่แล้ว ขณะที่นายทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากเม็กซิโก และดีมานด์รถขนาดเล็กในสหรัฐฯ ซึ่งโรงงานในเม็กซิโกชำนาญในการผลิตเป็นพิเศษ กำลังหดตัวลง
เมื่อปีที่แล้ว เกียประกาศแผนจะผลิตรถยนต์ 400,000 คันต่อปีในโรงงานที่เม็กซิโก แต่โฆษกของบริษัทรายงานเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ว่า ตัวเลขการผลิตอาจมีการเปลี่ยนแปลง
ในปี 2559 ฮุนไดและเกียรายงานยอดขายทั่วโลกรวมกันที่ลดลงถึง 2% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปี และทั้งสองบริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 5% ในปีนี้.