ยุโรปทิ้งอาหาร 88 ล้านตันต่อปี
อาหารที่ทิ้งอย่างสูญเปล่าเป็นจำนวนมากในยุโรปกลายเป็นปัญหากวนใจคุณครูชื่อ มารีค เดอ จองมานาน ทำให้เมื่อ 2 ปีก่อน
เธอหาทางช่วยแก้ปัญหาด้วยการเปิดร้านอาหารตามสะดวกที่เสิร์ฟอาหารอร่อยจากวัตถุดิบคือผักและเนื้อสัตว์คุณภาพดีที่ใกล้จะหมดอายุ
โดยความร่วมมือร่วมใจของทีม Rekub ของเธอ เธอจึงเฝ้าติดตามผลและคิดค้นแอพพลิเคชั่นที่สามารถช่วยนำผู้บริโภคหลายพันคนไปที่ร้านค้าปลีกซึ่งพวกเขาสามารถจะซื้ออาหารลดราคาได้ในช่วงใกล้ปิดร้านในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของคนกลุ่มเล็กๆ ที่เป็นผู้บริโภคที่ตระหนักรู้และตื่นตัวเรื่องอาหารเหลือทิ้งจำนวนมากยังถือเป็นจำนวนเล็กน้อย เมื่อเทียบกับอาหารที่ต้องทิ้งไปในระหว่างกระบวนการจากแหล่งผลิตสู่โต๊ะอาหาร
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ศาลผู้ตรวจสอบบัญชีแห่งยุโรป (ECA) ตำหนิผู้บริหารของสหภาพยุโรปในรายงานชื่อ “สู้กับขยะอาหาร” ซึ่งวิพากษ์สหภาพยุโรปว่า ขาดความพยายามในการลดปริมาณขยะอาหาร โดยมีการประเมินว่าอียูทิ้งอาหารถึง 88 ล้านตันต่อปีสำหรับประชากรทั้งหมด 510 ล้านคน
“ ทางอียูไม่ได้หาทางสู้กับปริมาณขยะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ” นางสาวเบททินา จาค็อบเซน สมาชิกของ ECA ให้ความเห็น โดยชี้ว่า ทางอียูยังขาดยุทธศาสตร์และแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับปัญหา
ทั้งนี้ ในรายงานยังได้ชี้ว่า ควรมีความพยายามมากขึ้นในระหว่างทางของห่วงโซ่อาหารและมีข้อควรระวังเป็นพิเศษที่ควรนำมาใช้ในนโยบายการจัดตั้งฟาร์มเพิ่อให้แน่ใจว่า ปริมาณผลผลิตที่ถูกทิ้งจะลดน้อยลง
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาของอียู มีผลลัพธ์ที่ชี้ว่า ปริมาณขยะอาหารครึ่งหนึ่งขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละครัวเรือน ไม่ได้มาจากนโยบาย
โดยทาง ECA ยังได้แนะนำให้แก้ปัญหานี้ด้วยการบริจาคอาหารจะง่ายกว่า เนื่องจากพวกเขายังติดหล่มกับประเด็นเรื่องของกฎหมายและภาษี ซึ่งบางครั้งกลายเป็นเรื่องที่บีบคั้นให้ผู้ผลิตต้องทิ้งอาหารไป หากอียูมีกฎหมายบังคับใช้ที่ดีขึ้นกว่านี ก็อาจเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้พลิกกลับมาดีขึ้นได้
ขณะเดียวกัน คุณครูเดอจองยังคงพยายามที่จะแก้ใขให้สถานการณ์แตกต่างจากเดิมในเมือง Antwerp ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของเบลเยียม หลังจากมีประสบการณ์ในการทำร้านอาหารตามสะดวกตั้งแต่ปี 2558 เธอกำลังวางแผนที่จะเปิดร้านอาหาร Rekub เป็นการถาวร
“ เราต้องเคลื่อนไหวต่อสู้ในเรื่องนี้ต่อไปและจับใส่ไว้ในเรดาร์ของทุกคน ” เธอกล่าวสรุป