สหรัฐ ผวา EV จีนภัยคุกคามลูกใหม่
• หวั่นอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐฯ เจ๊ง
• ยอดขาย EV จีนขึ้นแท่นผู้นำตลาดโลก
• ฟิทช์ ชี้รถไฟฟ้าถูกแข่งขันรุนแรงแต่ยังรอด
สหรัฐฯ กำลังกล่าวหาจีนอย่างรุนแรงว่า ได้สร้างภัยคุกคามตัวใหม่คือ EV ราคาถูก เข้ามาตีตลาดรถยนต์สหรัฐฯ หลังจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐฯ ลดการจ้างงาน
นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รมว.พลังงานสหรัฐ กล่าวเตือนว่า จีนอาจทำให้ตลาดรถยนต์สหรัฐเต็มไปด้วยรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก ซึ่งมีขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐแสดงข้อกังวลที่คล้ายคลึงกัน
“เรามีความกังวลอย่างมากว่าจีนจะสร้างอิทธิพลเหนืออุตสาหกรรมของเราในสหรัฐ แม้ว่าตอนนี้เราจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการผลิตแล้วก็ตาม” นางแกรนโฮล์ม กล่าวระหว่างการอภิปรายในงานของเว็บไซต์ข่าวแอ็กซิออส (Axios)
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จีนถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐ เนื่องจากยอดการส่งออกรถยนต์ของสหรัฐกำลังลดลง และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่าง ๆ เช่น เจเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) ก็กำลังปรับลดขนาดการดำเนินงานในต่างประเทศลง
“เราเห็นสิ่งที่คล้ายคลึงกันนี้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ล้นตลาดเต็มไปหมด” นางแกรนโฮล์ม กล่าว
ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งประเทศจีน (CAAM) ระบุว่า จีนส่งออกรถยนต์เกือบ 5 ล้านคันในปี 2566 แซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นแท่นประเทศผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2566
ฟิทช์ เรทติ้งส์ รายงาน เมื่อเดือนธ.ค. 2566 ว่า บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนต่างเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากเป็นประวัติการณ์ และแนวโน้มของบริษัทเหล่านี้ยังคงมีเสถียรภาพ แม้การแข่งขันจะทวีความรุนแรงขึ้นก็ตาม
“จีนกำลังลงทุนจำนวนมหาศาลเพื่อจุดประสงค์ในการขยายธุรกิจเพื่อครองตลาด ดังนั้นเราจึงต้องเข้าใจว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้คนที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าในราคาไม่แพง ซึ่งเราสามารถทำได้ และเราสามารถรักษาความมั่นคงของชาติเอาไว้ได้อีกด้วย” นางแกรนโฮล์ม ระบุ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ทำเนียบขาวประกาศว่า สหรัฐกำลังสอบสวนว่าการนำเข้ารถยนต์ของจีนก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติหรือไม่ เนื่องจากมีข้อกังวลว่ายานพาหนะเหล่านี้อาจเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับพลเมืองอเมริกันและโครงสร้างพื้นฐานและส่งกลับไปยังจีน