ยอดขายรถหนุนค้าปลีกสหรัฐฯ
ยอดขายค้าปลีกสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นในเดือนธ.ค.จากดีมานด์รถยนต์และเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไตรมาส 4 ส่งต่อสัญญาณการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาในปีนี้
เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้เงินเฟ้อปรับสูงขึ้น โดยข้อมูลอื่นที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ชี้ให้เห็นว่าราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปีกว่าและผู้บริโภคเริ่มใช้จ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้าและบริการ
โดยดีมานด์ในประเทศและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นนำหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากการบริหารของนายทรัมป์ไปก่อน ซึ่งเพิ่มแนวโน้มให้ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ อ้างอิงจากนักเศรษฐศาสตร์
“ นี่ไม่ใช่ภาพรวมของเศรษฐกิจที่ต้องการการสนับสนุนจากนโยบายของเฟด เราคาดว่าเฟดจะรักษาสัญญาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 หรือ 3 ครั้งในปีนี้ ” นายคริส รัปคีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำ MUFG Union Bank ในนิวยอร์กกล่าว
กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเดือนธ.ค.หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเดือนพ.ย. โดยยอดขายเพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับเดือนธ.ค.ปี 2558 ทำให้ยอดขายรวมทั้งปี 2559 เพิ่มขึ้น 3.3% จากเดิม 2.3% ในปี 2558
จากผลการสำรวจผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงผันผวน โดยคาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อใน 5 ปีจะอยู่ที่ 2.5% ต้นเดือนม.ค. จากที่เคยต่ำถึง 2.3% ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเงินเฟ้อยังคงต่ำกว่าเป้าที่เฟดคาดไว้ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมาสูงกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อาจฉุดตัวเลขเงินเฟ้อได้
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 2.4% มีส่วนหนุนยอดค้าปลีกมากในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนสำคัญจากยอดขายของสถานีบริการน้ำมัน สะท้อนให้เห็นถึงราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
ข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ม.ค.จากภาคการผลิตและบริการชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจขยายตัวเร็วขึ้นในช่วงท้ายของไตรมาส 4 หลังจากดิ่งลงในเดือนพ.ย. โดยเฟดคาดการณ์ว่า ตัวเลขจีดีพีจะเพิ่มขึ้น 2.8% ต่อปีในไตรมาส 4 โดยเศรษฐกิจมีการขยายตัวอยู่ที่ 3.5% ในไตรมาส 3
โดยในรายงานอีกฉบับของกระทรวงแรงงานชี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากเคยปรับขึ้นไปอยู่ที่ 0.4% ในเดือนพ.ย.
ยอดขายวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.5% เท่ากับร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ แต่ยอดขายในห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่อย่าง Macy’s (M.N) และ Kohl’s Corp (KSS.N) ลดลงในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่จากการรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันใช้จ่ายมากขึ้นกับกีฬาและงานอดิเรก แต่ลดค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารนอกบ้านลง โดยรายได้ของร้านอาหารและบาร์ลดลง 0.8% ในเดือนธ.ค.