ยอดขายรถในอินเดียดิ่งในรอบ 11 เดือน
ยอดขายรถยนต์ในอินเดียหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือนในเดือนธ.ค. เนื่องจากสถานการณ์ความยุ่งเหยิงวุ่นวายจากการประกาศเลิกใช้ธนบัตรเก่าอย่างกะทันหันของรัฐบาลฉุดดีมานด์ในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย
อ้างอิงจากข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของอินเดีย หรือ SIAM ยอดขายรถยนต์ลดลงถึง 1.36% มาอยู่ที่ 227,824 คันในเดือนธ.ค.ปีที่แล้วเมื่อเทียบกับปี 2558 อย่างไรก็ตาม ยอดขายรถยนต์ประเภทเอสยูวีขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 30% มาอยู่ที่ 58,309 คัน
โดยยอดขายรถ 2 ล้อทั้งจักรยานและมอเตอร์ไซค์ลดต่ำลงถึง 22% มาอยู่ที่ 910,235 คัน
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.ปี 2559 รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกการใช้งานธนบัตรมูลค่า 500 และ 1,000 รูปี เพื่อเป็นการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นและการฟอกเงิน แต่เนื่องจากเป็นธนบัตรที่มีสัดส่วนการใช้งานมากถึง 85% ของกระแสเงินสดที่หมุนเวียนในอินเดีย จึงทำให้ปริมาณเงินสดในประเทศสะดุด และส่งผลทำให้เกิดการหดตัวของดีมานด์ในอุตสาหกรรมรถยนต์
มารูติ ซูซูกิ อินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศที่ใหญ่ที่สุดโพสต์รายงานยอดขายที่ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนในเดือนธ.ค.โดยบริษัทมียอดขายลดลงถึง 4.4% ลงมาอยู่ที่ 106,388 คัน จากเดิม 111,333 คันในปี 2558 นอกจากนี้ ฮุนไดมอเตอร์อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ก็มียอดขายที่วูบลงถึง 4.3% ในเดือนธ.ค.
แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดขายที่ซบเซาลงใน 2 เดือนล่าสุดในอินเดียยังคงดีกว่าตัวเลขที่พวกเขาเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
“ เราประเมินว่า อุตสาหกรรมยานยนต์จะดิ่งวูบลงมากในเดือนพ.ย.- ธ.ค.เมื่อเปรียบเทียบกับยอดการเติบโตถึง 11% ในเดือนเม.ย. – ต.ค. เราเชื่อว่า นี่เป็นผลจากการลดราคากระหน่ำจากดีลเลอร์ในเดือนธ.ค และเงื่อนไขการซื้อรถที่ผ่อนปรนขึ้นมากจากธนาคารที่ให้สินเชื่อ ” นักวิเคราะห์จาก CLSA กล่าว
ทาง CLSA คาดการณ์ว่า ดีมานด์ของรถยนต์จะดีดกลับขึ้นมาเป็นบวกได้อีกครั้งในเดือนม.ค.- มี.ค. และทำนายว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะมีการเติบโตขยายตัวถึง 4% ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดเดือนมี.ค.นี้
ทั้งนี้ การชะลอตัวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่อุตสาหกรรมถูกค้ำจุนไว้ด้วยการฟื้นตัว ซึ่งต้องขอบคุณลมฟ้าอากาศในปีนี้ และการปรับขึ้นเงินเดือนและเงินบำนาญของรัฐบาลให้กับข้าราชการในปัจจุบันและที่เกษียณไปแล้ว.