ผู้ว่าการฮ่องกงขอโทษประชาชน
ฮ่องกง : เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.แคร์รี แลม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงกล่าวขอโทษอีกครั้งและระบุว่า เธอได้ยินเสียงของประชาชน“ดังและชัดเจน” หลังจากเกิดเหตุประท้วงรุนแรงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่เธอเคยผลักดันและตัดสินใจเลื่อนออกไปก่อนหน้านี้
เธอไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเธอเตรียมตัวที่จะลงจากตำแหน่ง โดยระบุแทนว่าเธอต้องการจะ “ทำงานหนักต่อไป เพื่อให้เป็นไปตามปณิธานของชาวฮ่องกง”
โดยเธอยังได้ปฏิเสธที่จะระบุว่าจะถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเมื่อไร บอกแต่เพียงว่าจะไมมีการผลักดันในสมัยของเธอหากประชาชนยังมีความกลัวอยู่
“ ในระหว่างกระบวนการเคลื่อนไหวของประชาชนจำนวนมากในวันอาทิตย์ทั้งสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนได้แสดงออกถึงความกังวลอย่างอย่างสงบสันติและมีเหตุผลเกี่ยวกับกฎหมาย รวมทั้งความไม่พอใจและความผิดหวังรัฐบาล โดยเฉพาะกับดิฉัน ดิฉันได้ยินเสียงของพวกคุณดังและชัดเจน และสะท้อนความรู้สึกลึกๆออกมา ” ผู้นำฮ่องกงกล่าว
“ความกังวลในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่านมาเกิดขึ้นเนื่องจากมีข้อบกพร่องในงานของรัฐบาลในช่วงการแก้ไขกฎหมาย โดยส่วนตัวดิฉันได้แบกความรับผิดชอบไว้บนบ่า ซึ่งนำไปสู่ความความขัดแย้ง สร้างความกังวลให้สังคม สำหรับเรื่องนี้ ดิฉันขอ
อภัยอย่างจริงใจกับประชาชนชาวฮ่องทุกคน” เธอเสริม
โดยแลมยังได้ชี้ว่า กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไม่มีแนวโน้มจะมีการผลักดันอีกจากประเด็นความอ่อนไหวของสาธารณชน
“ ดิฉันจะไม่ผลักดันกฎหมายอีก หากยังไม่มีการแก้ไขในประเด็นความกลัวและความกังวล ” เธอกล่าว “ หากกฎหมายไม่สามารถผ่านสภานิติบัญญัติได้ภายในเดือนก.ค.ปีหน้า ก็จะหมดอายุไป และรัฐบาลก็จะยอมรับความจริง”
หากร่างกฎหมายผ่านความเห็นชอบจากสภา จะทำให้มีการส่งตัวผู้ต้องหาไปพิจารณาคดีที่จีนเป็นกรณีไป ถึงแม้จะมีการเลื่อนออกไป แต่ประชาชนประมาณ 2 ล้านคนยังคงชุมนุมบนท้องถนนเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.เพื่อเรียกร้องให้ผู้ว่าการแลมลาออกจากตำแหน่ง
โดยผู้ประท้วงยังเรียกร้องให้แลมขอโทษที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงในสัปดาห์ก่อน และขอให้ไม่มีการตั้งข้อหาใดๆกับผู้ที่ถูกควบคุมตัวในระหว่างการประท้วง
ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการแลมขอโทษครั้งแรกเมื่อคืนวันที่ 16 มิ.ย.ในแถลงการณ์ของรัฐบาล ซึ่งประชาชนมองว่าขาดความจริงใจ ผู้ชุมนุมระบุว่า พวกเขาไม่เชื่อถือในตัวเธอและข้องใจกับความสามารถในการบริหารฮ่องกงของเธอ
แลม เป็นข้าราชการพลเรือนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักสู้ ตรงไปตรงมาและมีสไตล์การเป็นผู้นำที่เด็ดขาด เธอเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงเมื่อสองปีก่อนเพื่อเยียวยาสังคมที่แตกแยก
ผู้ประสานงานการชุมนุมประท้วงระบุว่า พวกเขาจะเคลื่อนไหวบนถนนต่อไปจนกว่าผู้ว่าการแลมจะฉีกกฎหมายนี้ เนื่องจากมีความกลัวว่าทางการฮ่องกงอาจรื้อฟื้นกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมาอีกในอนาคต เมื่อความรู้สึกของประชาชนสงบลงแล้ว