คาดญี่ปุ่นส่งออกวูบ 6 เดือนต่อเนื่อง
โตเกียว (รอยเตอร์) – ยอดส่งออกของญี่ปุ่นลดลงในอัตราที่เร็วขึ้นในเดือนพ.ค. เป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เพราะสงครามการค้าสหรัฐฯ – จีนยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จากโพลของรอยเตอร์เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.
โดยในโพลของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะคงดอกเบี้ยระยะสั้น และพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวตามเป้าไม่เปลี่ยนแปลงในสัปดาห์หน้า
ราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นอีกปัจจัยสำคัญสำหรับผู้สังเกตการณ์นโยบายตลาด มีแนวโน้มลดลงในเดือนพ.ค.และกดดันธนาคารกลางให้ยังคงห่างไกลจากเป้าเงินเฟ้อ 2%
“ การส่งออกมีแนวโน้มลดลงเนื่องจากโรงงานปิดในช่วงวันหยุดยาวของประเทศนาน 10 วัน และดีมานด์ภายอกที่อ่อนแอ” โคยะ มิยามาเอะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสที่ SMBC Nikko Securities อ้างถึงวันหยุดยาว Golden Week ที่ยาวนาน
กว่าเดิมในปีนี้เนื่องจากมีพระราชพิธีขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่
“ เราอยากเห็นข้อมูลส่งออกในเดือนมิ.ย.เพื่อตรวจสอบแนวโน้ม แต่สงครามการค้าสหรัฐฯ – จีนที่ตึงเครียดขึ้นจะส่งผลกระทบมากขึ้นกับการค้าในเดือนมิ.ย.”
คาดการณ์ว่าการส่งออกในเดือนพ.ค.จะลดลง 7.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากโพลนักเศรษฐศาสตร์ 16 คนของรอยเตอร์ เมื่อเทียบกับการหดตัว 2.4% ในเดือนเม.ย. และเป็นตัวเลขที่ดิ่งลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา
โดยกระทรวงการคลังจะเผยข้อมูลการค้าอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มิ.ย.นี้
กลุ่มรมว.กระทรวงการคลังโลกจาก 20 ประเทศชั้นนำที่มีการประชุมในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาระบุว่า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ยกระดับขึ้น ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการพัฒนาการเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลก และพวกเขาเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการค้าสหรัฐฯ – จีน
ธนาคารกลางญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในบรรดาธนาคารกลางรายใหญ่ที่ถูกกดดันให้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากกรณีพิพาททางการค้าก่อให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจทั่วโลกจะถดถอย
ในโพลยังระบุถึงดัชนีราคาผู้บริโภคหลัก ซึ่งรวมผลิตภัณฑ์น้ำมัน แต่ไม่รวมราคาอาหารสด ว่าจะขยับขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงมาจาก 0.9% ในเดือนเม.ย.