กว่า 600 บ.กระตุ้นทรัมป์แก้ปัญหาการค้าจีน
วอชิงตัน (รอยเตอร์) – Walmart , Target และอีกกว่า 600 บริษัทในสหรัฐฯ กระตุ้นประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วยการส่งจดหมายลงวันที่ 13 มิ.ย.ถึงเขาให้แก้ไขกรณีพิพาททางการค้ากับจีน โดยระบุว่ามาตรการภาษีกระทบธุรกิจและผู้บริโภคอเมริกัน
โดยจดหมายนี้เป็นฉบับล่าสุดที่ส่งถึงรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์โดย Tariffs Hurt the Heartland ซึ่งเป็นแคมเปญระดับชาติที่ต่อต้านมาตรการภาษีจากกลุ่มการค้ากว่า 150 กลุ่มที่เป็นตัวแทนภาคเกษตรกรรม การผลิต ค้าปลีกและอุตสากรรมเทคโนโลยี
ชัดเจนว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ – จีนยกระดับขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนในการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจ G-20 ในวันที่ 28 – 29 มิ.ย.นี้ที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
โดยผู้นำสหรัฐฯระบุว่า เขาอยากพบกับประธานาธิบดีสีและจะตัดสินใจว่าจะขยายมาตรการภาษีให้ครอบคลุมสินค้านำเข้าเกือบทุกรายการของจีนหรือไม่หลังการประชุม
ยิ่งใกล้เวลาของการประชุมระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ก็มีการคาดการณ์ว่าความเป็นไปได้ที่จะยุติสงครามการค้ามีต่ำมาก โดยแหล่งข่าวกล่าวกับสื่อรอยเตอร์ว่า มีการเตรียมตัวเพียงเล็กน้อยเพื่อการประชุม
“ เรายังคงกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีที่โต้ตอบกันไปมา” จดหมายฉบับล่าสุดของวันที่ 13 มิ.ย.ระบุ “ มาตรการภาษีที่มีผลบังคับใช้ไม่ใช่เครื่องมือทรงประสิทธิภาพในการเปลี่ยนวิธีการทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน ผู้ที่จ่ายภาษีโดยตรงคือบริษัทอเมริกัน … ไม่ใช่จีน”
โดย Walmart นายจ้างภาคเอกชนในสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุด และผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก ระบุว่าภาษีจะเพิ่มราคาสินค้าให้กับผู้บริโภค
“ การค้าโดยรวมเคยดีสำหรับชาวอเมริกัน ดีต่อผู้บริโภค และผมตระหนักว่า นี่ถูกวิจารณ์หลายครั้งแล้ว” Doug McMillion ซีอีโอของ Walmart กล่าวในสัปดาห์ก่อน เขาหนุนให้รัฐบาลทรัมป์มุ่งในประเด็นที่ว่าการค้าช่วยคนจำนวนมากในประเทศได้อย่างไร และ “ไม่ใช่แค่ผู้ที่มุ่งจะทำร้าย”
จดหมายระบุว่า ภาษีเพิ่มเติม 25% จำนวน 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่มีผลกับสินค้านำเข้าจากจีน จะทำให้งานในสหรัฐฯหายไปกว่า 2 ล้านอัตรา โดยอ้างอิงจากการประเมินของบริษัทที่ปรึกษานานาชาติ Trade Partnership
นอกจากนี้ ยังจะเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวอเมริกันที่มีสมาชิก 4 คนโดยเฉลี่ยประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และลด GDP ของสหรัฐฯลง 1%
“ สงครามการค้าที่ยกระดับขึ้นไม่ใช่ผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของประเทศ และทั้งสองฝ่ายมีแต่จะสูญเสีย” จดหมายระบุ.