ทรัมป์ชี้ UK เบร็กซิทโนดีลดีกว่าจ่ายให้อียู
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกโรงเสนอความเห็นเรื่องเบร็กซิท โดยกระตุ้นให้นายกรัฐมนตรีที่รับตำแหน่งต่อจากนายกฯเทเรซา เมย์ออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าสหราชอาณาจักรควรปฏิเสธที่จะจ่ายเงินจำนวน 39,000 ล้านปอนด์ ( 1.23 ล้านล้านบาท ) สำหรับกฎหมายออกจากสหภาพยุโรป และ เดินออกจากการเจรจาเบร็กซิท หากอียูไม่ให้ในสิ่งที่สหราชอาณาจักรต้องการ เขากล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อซันเดย์ ไทม์ของสหราชอาณาจักร
การแทรกแซงของทรัมป์มีขึ้นหลังจากเขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์อีกแห่งว่าบอริส แจ็คสัน อดีตรมว.กระทรวงต่างประเทศจะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้จะเป็นนายกฯคนต่อไปแทนนายกฯ เมย์
โดยทรัมป์เริ่มการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 มิ.ย.โดยเขาจะเป็นอาคันตุกะร่วมโต๊ะเสวยอาหารกลางวันส่วนพระองค์กับสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และมีงานเลี้ยงรับรองของรัฐบาลที่พระราชวังบักกิงแฮม
แต่มีการวางแผนการประท้วงครั้งใหญ่ตามที่ซาดิก ข่านนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนกล่าวจาก “พฤติกรรมที่สร้างความแตกแยก” ของผู้นำสหรัฐฯ และบรรดานักการเมืองฝ่ายค้านก็บอยคอตงานเลี้ยงรับรอง
ทรัมป์ทำให้นายกฯเมย์เสียหน้าจากการพูดถึงประเด็นเบร็กซิทในระหว่างการเยือนอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.เขาพูดกระตุ้นให้รัฐบาลชุดต่อไปทำตามกฎการเจรจาของเขา
“ หากไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ ก็เดินออกมา หากคุณไม่ได้ตามข้อตกลงที่ต้องการ หากคุณไม่ได้ข้อตกลงที่ยุติธรรมพอ คุณก็เดินออกมา” เขาระบุในบทความ
นายกฯเมย์ตกลงที่จะจ่ายเงินครอบคลุมในส่วนภาระความรับผิดชอบของสหราชอาณาจักรที่ออกจากการเป็นสมาชิกของอียูมานานถึงสี่ทศวรรษ แต่ทรัมป์ระบุว่า “ ถ้าเป็นผม ผมไม่จ่าย 50,000 ล้านดอลลาร์นี่หรอก ถ้าเป็นผม ผมไม่จ่าย มันเป็นเงินก้อนมหาศาล”
ทั้งนี้เมย์ทำข้อตกลงเบร็กซิทกับอียูเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว แต่ส.ส.อังกฤษโหวตคว่ำข้อตกลงทั้ง 3 ครั้ง ทำให้เธอต้องเลื่อนกำหนดเบร็กซิทถึงสองรอบ ตอนนี้เธอถูกบีบให้ออกจากตำแหน่งนายกฯ และพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอกำลังสรรหาผู้นำคนใหม่ โดยมีแคนดิเดทที่เสนอตัวเข้ามาถึง 13 คน
โดยจอห์นสัน ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาผู้สมัครแถวหน้า อยู่ในกลุ่มคนจำนวนมากที่ระบุว่า สหราชอาณาจักรควรออกจากอียูในวันที่ 31 ต.ค.นี้โดยมี หรือไม่มีข้อตกลง
พวกเขาถูกกดันจากพรรคเบร็กซิท ซึ่งเป็นพรรคการเมืองล่าสุดที่มีไนเจล ฟาร์ราจ ผู้นำสายประชานิยมที่ต่อต้านอียูเป็นหัวหน้าพรรค โดยพรรคนี้ได้ที่นั่งในส่วนของสหราชอาณาจักรมากที่สุดในสภายุโรปในการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว
ทรัมป์ระบุว่า เขาเชื่อว่าฟาร์ราจจะมีบทบาทสำคัญในการเจรจาเรื่องเบร็กซิทกับอียู โดยกล่าวว่า เขามีหลายอย่างจะเสนอ
ความสัมพันธ์ทางการค้าในอนาคตของสหราชอาณาจักรกับสหรัฐฯ เป็นเรื่องสำคัญหลัง ความสำเร็จของเบร็กซิท และมีแนวโน้มจะมีการปรึกษากันในประเด็นนี้ในระหว่างการพูดคุยของทรัมป์กับเมย์ที่ถนนดาวน์นิงในสัปดาห์นี้
แต่มีความกังวลว่าสหราชอาณาจักรอาจถูกกดดันจากสหรัฐฯให้ยอมรับข้อตกลงที่ไม่สมดุล โดยเฉพาะนโยบายของทรัมป์ที่มีจุดยืนว่า ‘อเมริกาต้องมาก่อน’ ที่เขย่าความสัมพันธ์ทางการค้าของสหรัฐฯกับเม็กซิโก แคนาดา ญี่ปุ่น และจีน
วู้ดดี้ จอห์นสัน ทูตสหรัฐฯ ประจำอังกฤษกล่าวกับสถานี BBC ว่าวอชิงตันเตรียมพร้อมเพื่อทำการตกลงการค้าและ “จะมีการทำข้อตกลงอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เราเคยมี”
เขากล่าวว่าเขาคาดว่าอังกฤษจะเปิดรับสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ และเมื่อถูกถามเรื่องการเข้าถึงบริการสาธารณสุขของรัฐบาลอังกฤษของบริษัทสหรัฐฯ โดยเขาชี้ว่า “ ทุกอย่างที่ค้าขายจะมีการเจรจากัน”.