นร.หญิงสอบเข้าม.แพทย์โตเกียวได้มากกว่าชาย
ในปีนี้ สัดส่วนของนักเรียนหญิงที่สอบผ่านได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแพทย์โตเกียว ซึ่งเป็นข่าวฉาวเรื่องการเลือกปฏิบัติและกีดกันนักเรียนหญิงในปีที่แล้ว มีมากกว่าผู้สมัครชาย จากตัวเลขที่เผยแพร่โดยมหาวิทยาลัย
โดยอัตราการสอบผ่านของนักเรียนหญิงอยู่ที่ 20.2% สูงกว่านักเรียนชาย 0.4% ขณะที่ในปีที่แล้ว อัตราส่วนของผู้หญิงอยู่ที่ 2.9% และผู้ชายอยู่ที่ 9% ตัวเลขการสอบผ่านที่เพิ่มขึ้นทั้งสองเพศ เห็นได้ชัดว่าเป็นผลมาจากการปฏิรูประบบการ
สอบเข้ามหาวิทยาลัย ในปีที่แล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้ยอมรับว่ามีการกดคะแนนสอบเข้าของนักเรียนหญิงให้น้อยลงอย่างเป็นระบบ เพื่อจะรับนักเรียนหญิงให้น้อยกว่าชาย
“ ปกติแล้ว เราประกาศคะแนนสอบประมาณเดือนก.ค. แต่จากข่าวฉาวที่เกิดขึ้น เราตัดสินใจที่จะประกาศผลคะแนนเร็วขึ้นในปีนี้เพื่อความโปร่งใส” โฆษกมหาวิทยาลัยกล่าว
จากตัวเลขที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 พ.ค.จำนวนผู้สมัครสอบเข้าลดฮวบลงกว่า 60% โดยเป็นนักเรียนหญิง 470 คน และนักเรียนชาย 771 คน คาดการณ์ว่าเป็นผลกระทบด้านลบจากข่าวฉาวก่อนหน้านี้
มหาวิทยาลัยแพทย์เริ่มกีดกันและเลือกปฏิบัติกับนักเรียนหญิงที่สมัครสอบเข้า เนื่องจากมีความเชื่อที่ว่า ผู้หญิงต้องลาออกไปอยู่บ้านหลังจากแต่งงานหรือคลอดบุตร และเชื่อว่าการกีดกันเช่นนี้ถือเป็นการป้องกันการขาดแคลนของแพทย์ในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ยังมีการเปิดเผยว่ามีการกีดกันและเลือกปฏิบัติในลักษณะนี้กับนักเรียนหญิงที่สอบเข้าในมหาวิทยาลัยแพทย์ที่อื่นด้วย ทำให้สาธารณชนไม่พอใจ
โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ค. มหาวิทยาลัยแพทย์โตเกียวยังได้ระบุว่า ได้ออกจดหมายตอบรับเข้าศึกษาไปให้กับผู้สมัคร 44 ราย ที่เข้าสอบในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ถูกปฏิเสธไม่รับเข้าเรียนเพราะการเลือกปฏิบัติของมหาวิทยาลัย จากผู้ได้รับจดหมายทั้งหมด มีการตอบกลับและตัดสินใจเข้าศึกษาต่อ 24 ราย โดยเป็นนักเรียนหญิง 16 ราย
ภายใต้ระบบการเลือกปฏิบัติของทางมหาวิทยาลัยที่ผ่านมา ผู้สมัครสอบหญิงจะได้คะแนนสูงสุดที่ 80 คะแนนเท่านั้นจากคะแนนเต็ม 100 แม้พวกเธอจะทำข้อสอบได้ถูกหมดทุกข้อก็ตาม ขณะที่ผู้สมัครสอบชาย ซึ่งผ่านการสอบมาแล้ว 4 ครั้งขึ้นไปจะถูกเลือกปฏิบัติและถูกกีดกันเช่นเดียวกัน
มหาวิทยาลัยแพทย์ชี้แจงว่าทางมหาวิทยาลัยไม่รับนักเรียนชายที่สอบไม่ผ่านหลายครั้งเพราะพวกเขามีแนวโน้มจะสอบวัดระดับด้านการแพทย์ของประเทศไม่ผ่านเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลกระทบกับอัตราส่วนผู้สมัครสอบที่ประสบความสำเร็จและทำลายชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยให้ตกต่ำลง
กลุ่มนักกฎหมายที่ดำเนินการสอบสวนภายในสรุปว่ามีการใช้งานระบบการลดคะแนนผู้เข้าสอบด้วยคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพมาตั้งแต่ปี 2549 และถูกปิดบังไม่ให้ผู้เข้าสอบทราบ