ผู้ลี้ภัยฆ่าตัวตายหลังรู้ผลเลือกตั้งออสเตรเลีย
ผลการเลือกตั้งที่พลิกล็อกของออสเตรเลียก่อให้เกิดเป็นกระแสความพยายามที่จะฆ่าตัวตายขึ้นในกลุ่มผู้ลี้ภัยที่ถูกควบคุมตัวบนเกาะมานัส นอกชายฝั่งของปาปัวนิวกินี จากข้อมูลของนักเคลื่อนไหว
Behrouz Boochani นักเคลื่อนไหวที่ถูกคุมขังกล่าวกับสื่อ CNN ว่า มีผู้ลี้ภัยอย่างน้อย 9 คนที่พยายามปลิดชีวิตตัวเองหลังจากที่พวกเขาทราบผลการเลือกตั้งของออสเตรเลียเมื่อวันที่ 18 พ.ค. โดยมี 3 คนที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
ผู้ลี้ภัยเกือบ 1,000 คนถูกคุมขังในศูนย์นอกชายฝั่งปาปัวนิวกินี และเกาะนาอูรู ตามคำสั่งของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่ผู้ลี้ภัยต้องการจะเข้าไปพักพิง กลุ่มสิทธิ Amnesty International รายงานว่าในสถานที่คุมขังมีสภาพที่แย่มาก มีการทำร้ายผู้ลี้ภัยและพวกเขาถูกละเลย
ผลการเลือกตั้งที่พรรคแนวร่วม Liberal National คว้าชัยชนะ ถือเป็นการดับฝันกลุ่มผู้ลี้ภัยที่หวังว่ารัฐบาลใหม่จากพรรคแรงงานจะช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เลวร้ายของพวกเขาให้ดีขึ้น
โดย Boochni ระบุว่าเกิดเหตุที่ผู้ลี้ภัยพยายามฆ่าตัวตาย 7 คนบนเกาะมานัส และอีก 2 คนที่ Port Moresby บนแผ่นดินใหญ่ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีผู้เสียชีวิต
ก่อนหน้าการเลือกตั้งออสเตรเลีย พรรคแรงงานซึ่งเป็นฝ่ายค้านระบุว่าจะทำข้อตกลงกับนิวซีแลนด์เพื่อจัดหาที่พักพิงให้ผู้ลี้ภัยทั้ง 150 คนที่ถูกคุมขังบนเกาะนาอูรูหากได้เป็นรัฐบาลตามที่โพลชี้นำ ทำให้เกิดความหวังกับผู้ลี้ภัยบนเกาะนาอูรูและเกาะมานัสว่าชีวิตพวกเขาจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหากพรรคแรงงานชนะ
อย่างไรก็ตาม พรรคแนวร่วม Liberal National ที่นำโดยนายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสันชนะการเลือกตั้งอย่างพลิกล็อก ทำให้พรรคได้จัดตั้งรัฐบาลเป็นสมัยที่ 3
เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลของมอร์ริสันมีนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มงวดมาก รวมถึงความพยายามที่จะบล็อกกฎหมาย Medivac ซึ่งอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยจากเกาะนาอูรูและเกาะมานัสมาที่ออสเตรเลียได้เพื่อการรักษาพยาบาล
“ เป็นเรื่องน่าผิดหวังมากสำหรับเรา ชีวิตของเราขึ้นอยู่กับเรื่องนี้” Boochani กล่าวถึงผลการเลือกตั้ง และความหวังที่จะได้ไปพักพิงที่นิวซีแลนด์
“ ตอนนี้ทุกคนคิดว่าไม่มีทางออกไปจากเกาะได้ และไม่นานพวกเราก็จะถูกลืมไปตลอดกาล”