เลือกตั้งอินเดียจบแล้ว
การเลือกตั้งในอินเดีย เข้าสู่วันสุดท้ายเมื่อวันที่ 19 พ.ค.โดยมีการปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 18.00 น.ซึ่่งเป็นการเลือกตั้งเป็นวันที่ 7 และเป็นรอบสุดท้ายของการเลือกตั้ง จบการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากถึง 900 ล้านคน
มีผู้มาใช้สิทธิเข้าแถวต่อคิวยาวนอกคูหาเลือกตั้งใน 8 รัฐ เพื่อลงคะแนนเลือกผู้สมัคร 59 คนสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรอินเดียที่มีทั้งหมด 543 ที่นั่ง
มีการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาในรัฐเบงกอลตะวันตก ซึ่งเคยมีการปะทะกันบนท้องถนนระหว่างผู้สนับสนุนพรรค Bharatiya Janata ของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิและกลุ่มตรงข้าม
พรรคอนุรักษ์นิยม BJP ชูภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งของนายกฯโมดิและประเด็นความเฉียบขาดของเขาเมื่อเร็วๆนี้ ที่ส่งฝูงบินรบไปถล่มปากีสถาน ขณะที่คู่ต่อสู้จากพรรคคองเกรส มีผู้นำคือราหุล คานธี กล่าวหาโมดิว่ามีนโยบายที่แตกแยกและทำลายเศรษฐกิจ
โดยโมดิและคานธีต่างใช้คำรุนแรงต่อว่ากัน โดยนายกฯเรียกคู่ต่อสู้ของเขาว่า “โง่” ขณะที่คานธีเย้ยหนันโมดิว่าเป็น “ขโมย”
มีการประเมินว่า ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งครั้งนี้อาจสูงถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (222,810 ล้านบาท ) ทำให้เป็นการเลือกตั้งที่ใช้เงินมากที่สุดครั้งหนึ่งในโลก โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายของพรรค BJP
งบจำนวนมากถูกใช้ไปกับโซเชียลมีเดีย พรรคการเมืองต่างใช้กองทัพไซเบอร์ของตัวเองเพื่อระดมความเห็นชักจูงโน้มน้าวประชาชนอินเดียหลายร้อยล้านคนบนเฟซบุ๊ก และวอทสแอป
มีการปล่อยข่าวเท็จให้ร้ายกัน รวมทั้งภาพของคานธีและโมดิที่รับประทานอาหารกลางวันกับนายกฯอิราน ข่านของปากีสถาน ซึ่งเป็นประเทศคู่ขัดแย้ง
เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้น เมื่อกลุ่มกบฎคอมมิวนิสต์สังหารเจ้าหน้าที่ 15 นายและคนขับรถในรัฐมหาราษฎระเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ซึ่งเป็นการโจมตีล่าสุดในรอบหลายทศวรรษ
คานธี ในวัย 48 ปี พยายามพูดโจมตีนายกฯโมดิ โดยกล่าวหาว่าเขาทุจริตโกงกินด้วยการทำข้อตกลงกับกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส และยังเรียกโมดิว่า “คนโกหก”
รัฐบาลโมดิล้มเหลวในการสร้างงานให้กับชาวอินเดียหลายล้านคน นอกจากนี้ มาตรการแบนเงินสดในปี 2559 เพื่อมุ่งปราบการทุจริตส่งผลต่อการใช้ชีวิตของประชาชนอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ การประชาทัณฑ์ชาวมุสลิมและกลุ่มคนจัณฑาลเพราะกินเนื้อวัว ฆ่าและขายวัวในช่วงที่นายกฯโมดิบริหารประเทศ ทำให้ชาวมุสลิม 170 ล้านคนในอินเดียรู้สึกถูกคุกคามและหวาดกลัวกับอนาคต.