ไต้หวันเฮรับกฎหมายรองรับแต่งงาน LGBTQ
ซีเอ็นเอ็น – สภานิติบัญญัติของไต้หวันผ่านร่างกฎหมายรับรองการจดทะเบียนสมรสในคู่รักเพศเดียวกัน ทำให้ไต้หวันกลายเป็นที่ประเทศแรกในเอเชียที่ทำให้การแต่งงานในคู่รักเพศเดียวกันถูกกฎหมายอย่างเป็นทางการ
การลงคะแนนเสียงเกิดขึ้นหลังศาลรัฐธรรมนูญของไต้หวันตัดสินว่ากฎหมายที่มีอยู่แล้ว ซึ่งระบุถึงการสมรสว่าเป็นเรื่องระหว่างผู้ชายและผู้หญิง เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ต่อมาทางคณะผู้พิพากษาจึงมอบหมายให้รัฐสภาไต้หวันใช้เวลา 2 ปีในการแก้ไขหรือออกฎหมายใหม่
วันที่ 17 พ.ค.เพียงสัปดาห์เดียวหลังเส้นตายระยะเวลา 2 ปี ทางสภาของไต้หวัน หรือ หยวน ได้ผ่านร่างกฎหมายที่ทำให้การแต่งงานระหว่างคู่รักเพศเดียวกันเป็นจริงได้ในที่สุด โดยจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค. ที่จะถึงนี้
แม้ว่าไต้หวันจะมีกลุ่มชาว LGBT ที่ค่อนข้างมาก และมีการเดินขบวน Pride ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเป็นประจำทุกปี แต่ปัญหาความเสมอภาคในการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันและเพศทางเลือกกลับถูกกีดกันออกจากสังคมไต้หวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเมื่อเดือน พ.ย.ปีก่อน ในการลงประชามติเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว มีการลงคะแนนเสียง 67% ที่ปฏิเสธการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน
ในวันเดียวกัน ผู้คนนับหมื่นต่างรวมตัวกันท่ามกลางสายฝน เพื่อแสดงความยินดีหลังการผ่านร่างกฎหมายที่ด้านหน้ารัฐสภาหรือก็คือที่ที่สภานิติบัญญัติร่วมกันลงคะแนนเสียงในการร่างกฎหมาย 3 ฉบับ กฎหมายฉบับหนึ่งร่างขึ้นโดยคณะรัฐมนตรีซึ่งผ่านร่างเรียบร้อยแล้ว และกฎหมายอีก 2 ฉบับที่มีการลดความรุนแรงของเนื้อหากฎหมายที่ร่างขึ้นโดยกลุ่มอนุรักษ์นิยม
ร่างกฎหมายของคณะรัฐมนตรีที่ผ่านการรับรองคือกฎหมายการใช้คำว่า “สมรส” กฎหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม LGBTQ แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าคู่รักเพศเดียวกันจะสามารถใช้สิทธิ์ด้านการสมรสที่เท่าเทียมกับคู่รักต่างเพศอย่างการอุปการะบุตร และการแต่งงานข้ามสัญชาติหรือไม่
อู๋ จื่น อัน วัย 33 ปี ศิลปินชาวเกย์จากไทเปก็ได้ร่วมเข้ารวมตัวกับฝูงชนที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พ.ค.และเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะในครั้งนี้
นายอู๋ระบุว่า “ผลการผ่านร่างกฎหมายวันนี้เป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ตอนนี้ มันยังเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าไต้หวันต่างจากจีนอีกด้วยครับ”
เขาระบุเสริมโดยอ้างอิงจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการแต่งงานระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน “ส่วนตัวผมยังไม่คิดจะแต่งงานหรอกครับ แต่ผมว่ามันเป็นสัญญาณของความเท่าเทียมครับ”
เซี่ยวกัง เหวย หัวหน้าสถาบันการศึกษาด้านสุขภาวะทางเพศในปักกิ่ง กล่าวถึงการผ่านร่างกฎหมาย LGBTQ ว่าเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เพียงแค่สำหรับเอเชียเท่านั้น แต่รวมถึงการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของชาว LGBTQ ทั่วโลกเลยทีเดียว
เขาให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า “กฎหมายการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกันจะส่งผลดีให้กับชุมชนชาว LGBT ของจีนได้เป็นอย่างมาก มันสร้างความหวังให้พวกเรามากครับ”
สิ้นสุดการลงคะแนนเสียง ปธน.ไช่ อิง เหวิน ทวีตข้อความว่า “เราได้ก้าวครั้งใหญ่ไปสู่อนาคตที่เท่าเทียมอย่างแท้จริง และทำให้ไต้หวันเป็นประเทศที่ดีมากยิ่งขึ้นค่ะ”