เมืองคามาคุระ ห้ามเดินกินอาหาร
เมืองชายฝั่งคามารุคะ ในจังหวัดคานางาว่าของญี่ปุ่น ได้ผ่านกฎหมายเทศบัญญัติที่ระบุห้ามไม่ให้ผู้มาเยือนเมืองนี้รับประทานอาหารขณะเดินอยู่ โดยเมืองคามาคุระ ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 50 กิโลเมตร และมีชื่อเสียงเป็นเมืองที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่
หลังจากในปี 2560 เมืองเกียวโตได้ตีพิมพ์คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว สำหรับสิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนั้นในเกียวโต เมืองคามาคุระก็ได้ตีพิมพ์กฎหมายเทศบัญญัติอย่างเป็นทางการที่ขอให้ผู้มาเยือนเมืองนี้ไม่รับประทานอาหารขณะเดินอยู่
โดยเมืองคามาคุระ ซึ่งเป็นเมืองชายฝั่ง ที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากกรุงโตเกียวมากนัก มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่มักเรียกกันว่า ‘ไดบุตสึ’
เมืองนี้เป็นเมืองชายฝั่งที่เป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงโตเกียว ที่มักจะหลีกหนีชีวิตในเมืองที่วุ่นวายมาหาความสงบในเมืองนี้ช่วงสุดสัปดาห์ และมาสูดอากาศสดชื่นที่อ่าวซากามิอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่ชาวต่างชาติก็มักโดยสารรถไฟมาที่คามาคุระ เพื่อมาเที่ยวชมหลายวัด ซึ่งมีความเก่าแก่ย้อนไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ 12 และเป็นพยานชื่นชมความสำคัญของเมืองในยุคกลาง โดยนักเดินทางนิยมมาชมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.1795 มีน้ำหนักถึง 122 ตันและมีความสูง 11 เมตร
ในการออกกฎหมายนี้ เมืองคามาคุระกำหนดเป้าหมายในการกำจัดขยะ และหยุดการทิ้งขยะเศษอาหารในเมืองที่ได้รับความนิยมจากนักท่องที่ยวแห่งนี้ อย่างไรก็ตาม ทางการยังไม่ได้กำหนดค่าปรับ หรือบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน สื่อ CNN รายงาน
ทั้งนี้ กฎหมายเทศบัญญัติของเมืองคามาคุระ เตือนความทรงจำให้นึกถึงการตัดสินใจของทางการอิตาลีที่สั่งห้ามไม่ให้มีการกินอาหารบนถนนในเมืองฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์
แต่ที่แตกต่างจากเมืองคามาคุระคือ เมืองฟลอเรนซ์ของอิตาลีได้ประกาศโทษปรับสำหรับผู้ฝ่าฝืนสูงถึง 500 ยูโร ( 17,990 บาท) โดยเมืองฟลอเรนซ์ทำตามตัวอย่างคือกรุงโรม ขณะที่เมืองเวนิซ และเวโรนาก็ผ่านกฎหมายป้องกันการเปิดร้านใหม่ของร้านอาหารเล็กๆสำหรับสั่งอาหารกลับบ้านด้วย.