หลายล้านยังไม่มีไฟฟ้าหลังพายุถล่มอินเดีย
ประชาชนหลายล้านคนยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ หรือไร้ที่อยู่ทางตะวันออกของอินเดีย หนึ่งสัปดาห์หลังเกิดเหตุพายุไซโคลนถล่ม ทางการอินเดียระบุเมื่อวันที่ 11 พ.ค. โดยมีรายงานว่ามีความไม่พอใจจากผู้ประสบภัยและเริ่มประท้วงการบรรเทาทุกข์ที่ล่าช้า
มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 42 รายในรัฐโอริสสาและประเทศเพื่อนบ้านคือบังคลาเทศหลังจากพายุไซโคลนฟานิถล่มภูมิภาคนี้เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ด้วยกำลังแรงลมที่รุนแรงถึง 200 ก.ม.ต่อชั่วโมง
“ พื้นที่เป็นบริเวณกว้างถูกทำลาย เกิดความเสียหายกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานมากเป็นประวัติการณ์” Bishnupada Sethi คณะกรรมาธิการบรรเทาทุกข์พิเศษของรัฐโอริสสากล่าวกับสื่อ AFP
โดยเขาซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลการบรรเทาทุกข์ในรัฐโอริสสาระบุว่าพายุไซโคลนส่งผลกระทบกับประชาชนประมาณ 16.5 ล้านคนในรัฐ
ไฟฟ้ากลับมาใช้การได้ประมาณ 50% สำหรับประชาชน 1 ล้านคนในเมืองหลวงของรัฐ คือบูบันเนสชวาร์ ขณะที่เมืองปุรีเป็นเมืองที่ถูกทำลายมากที่สุด เพราะพายุขึ้นฝั่งที่นี่ โดยเมืองปุรี ซึ่งมีประชากรประมาณ 200,000 คน เป็นหนึ่งในเมืองที่มีความสำคัญมากที่สุดของศาสนาฮินดู ขณะนี้ยังมีการสำรวจทางโบราณคดีเพื่อประเมินความเสียหายกับมรดกโลกอยู่
“ ความเสียหายเกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างมาก แต่เราได้ทำให้น้ำประปากลับมาใช้การได้ในระดับเดียวกับช่วงก่อนมีพายุ ถนนและการสื่อสารโทรคมนาคมใช้การได้แล้วเช่นกัน” Sethi กล่าว
แต่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า สถานการณ์ยังคงเลวร้ายมาก ทำให้ผู้ประสบภัยเริ่มประท้วงการบรรเทาทุกข์ที่ล่าช้า
“ เรากลัวมากเพราะผู้เดินขบวนประท้วงข่มขู่เราและพยายามจะเข้ามาโจมตีเรา” N.K.Sahu เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ากล่าวกับสื่อ Press Trust ของอินเดียเมื่อวันที่ 10 พ.ค. หลังจากผู้ประท้วงพยายามบุกออฟฟิศของเขา เพื่อเรียกร้องให้ไฟฟ้ากลับมาใช้การได้โดยเร็ว
อินเดียได้รับการยกย่องชมเชยจากสหประชาชาติและบรรดาผู้เชี่ยวชาญจาการอพยพประชาชน 1.2 ล้านคนอย่างรวดเร็ว โดยการคาดการณ์ที่ปรับปรุงพัฒนาขึ้น การเตือนภัยประชาชน และแผนอพยพที่มีการจัดการดี ได้แรงสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ทหารและบรรดาจิตอาสา ซึ่งช่วยลดความเสียหายจากพายุฟานิได้เป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ย้อนไปในปี 2542 รัฐโอริสสาเคยถูกพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นถล่มจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากเกือบหมื่นราย.