2 น.ร.กราดยิงร.ร.ในโคโลราโด
นักเรียน 2 คนพกอาวุธปืนเข้าไปก่อเหตุกราดยิงในโรงเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในเมืองเดนเวอร์เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ทำให้เพื่อนนักเรียนบาดเจ็บถึง 8 ราย ก่อนที่จะถูกตำรวจควบคุมตัว
โดยเหยื่อหลายคนซึ่งเป็นนักเรียนที่ร.ร.วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) ในไฮแลนด์ แรนช์ ชานเมืองเดนเวอร์ มีอาการบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่นและต้องผ่าตัด โทนี สเปอร์ล็อก นายอำเภอเขตดักกลาสระบุในการแถลงข่าว
“ เด็กทั้งสองคนเดินเข้ามาในร.ร.STEM เดินเข้ามาข้างในร.ร. และทำร้ายเด็กน.ร.ในพื้นที่สองแห่ง” สเปอร์ล็อกระบุ ผู้ต้องสงสัยถูกระบุแต่เพียงว่าเป็นน.ร.ของร.ร.แห่งนี้ ซึ่งมีการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงม.6
ผู้ช่วยนายอำเภอมาถึงที่ร.ร. ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเดนเวอร์ไปทางใต้ประมาณ 40 ก.ม. ภายในสองนาทีหลังได้รับการแจ้งเหตุ นายอำเภอสเปอร์ล็อกกล่าว และ “ เข้าจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย”
ตำรวจไม่ให้ความเห็น โดยระบุแต่เพียงว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปการสอบสวน ซึ่งได้รับการประสานความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ FBI โดยทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์รับทราบข่าวเหตุกราดยิงครั้งนี้แล้ว
เหตุกราดยิงสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นห่างการครบรอบ 20 ปีจากเหตุกราดยิงครั้งสำคัญที่ร.ร.มัธยมโคลัมไบน์ในย่านลิตเติลตันไม่ถึงเดือน โดยร.ร.โคลัมไบน์ตั้งอยู่ห่างจากร.ร.ไฮแลนด์แรนช์ประมาณ 8 ก.ม. เมื่อปี 2542 เด็กน.ร.ของร.ร.โคลัมไบน์ 2 คนได้กราดยิงคร่าชีวิตคนในร.ร.ไปมากถึง 13 ราย ก่อนที่จะฆ่าตัวตาย ถือเป็นเหตุกราดยิงในร.ร. ที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
เมื่อเหตุร้ายคลี่คลาย เฮลิคอปเตอร์ทางการแพทย์ลงจอดและขึ้นจากภายนอกร.ร. ขณะที่สไนเปอร์ประจำตำแหน่งบนหลังคาอาคารใกล้เคียง เจ้าหน้าที่หน่วย SWAT พร้อมอาวุธให้การคุ้มกันรถพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสำรวจร.ร.
แจเร็ด โพลิส ผู้ว่าการรัฐโคโลราโดระบุว่าได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังสถานที่เกิดเหตุ
“ เราได้ทำทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ด้วยการเข้าไปช่วยเหลือนายอำเภอเขตดักกลาสในความพยายามที่จะให้การคุ้มกันร.ร.และอพยพเด็กน.ร.” ผู้ว่าการโพลิสโพสต์บนทวิตเตอร์
ทำเนียบขาวส่งสารแสดงความเสียใจกับผู้ประสบเหตุ “ เราขอแสดงความเสียใจกับเหยื่อสมาชิกครอบครัว และผู้ที่ได้รับผลกระทบกับเหตุกราดยิงในวันนี้” จัดด์ เดียร์ โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า “ ทำเนียบขาวมีการสื่อสารกับทางรัฐและเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น และท่านประธานาธิบดีรับทราบเหตุร้ายแล้วและยังคงจับตาดูสถานการณ์ต่อไป”
เฟอร์นานโด มอนโทยาระบุว่า ลูกชายวัย 17 ปีของเขา ซึ่งเป็นนร.ของร.ร.STEM ถูกยิง 3 ครั้ง และเพื่อนคนหนึ่งก็บาดเจ็บด้วย โดยมอนโทยากล่าวว่า ลูกชายซึ่งเพิ่งออกจากรพ.ได้เล่าให้ฟังว่า มือปืนคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องเรียนและเปิดฉากยิง ขณะที่มือปืนอีกคนอยู่ในห้องเรียนอยู่แล้ว
“ ลูกเล่าว่า คนที่ลงมือดึงปืนออกมาจากกล่องกีตาร์ และเริ่มยิง” มอนโทยากล่าวให้สัมภาษณ์สื่อ.