ผู้นำฝ่ายค้านเวเนฯ หนุนชุมนุมใหญ่
เกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมประท้วงกับตำรวจบนถนนหลายสายในกรุงการากัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ทำให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 100 ราย
โดยการชุมนุมประท้วงนำโดยนายฮวน กุยโต ผู้นำฝ่ายค้านที่เรียกร้องให้กองทัพยึดอำนาจจากประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ทำให้มีผู้ชุมนุมออกมารวมตัวกันมากขึ้นบนถนนหลายสายในวันที่ 1 พ.ค.ซึ่งนายกุยโตระบุว่าจะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ หนึ่งวันหลังจากเขาเรียกร้องให้กองทัพยึดอำนาจจากประธานาธิบดีมาดูโร “ เรารู้ว่ามาดูโรไม่มีกองทัพหนุนหลัง เราเห็นว่าการประท้วงมีผล เราจะกดดันต่อไป” กุยโตโพสต์ในวีดีโอบนโซเชียลมีเดียเมื่อช่วงเย็นวันที่ 30 เม.ย.การประท้วงครั้งนี้เป็นการทดสอบศักยภาพของกุยโต เนื่องจากบรรดาผู้สนับสนุนต่างหัวเสียที่ประธานาธิบดีมาดูโรยังคงครองอำนาจต่อมาได้มากกว่า 3 เดือน
หลังการประท้วงครั้งก่อนที่นำโดยกุยโต ขณะที่กุยโตได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯและประเทศตะวันตก แต่ยังคงมีทหารที่เคียงข้างสนับสนุนมาดูโรอยู่ นอกจากนี้ยังมีชาติพันธมิตรที่ยังคงเคียงข้างเขาอย่างรัสเซีย จีนและคิวบา มาตรฐานการครองชีพของชาวเวเนซุเอลาตกต่ำลงในช่วงหลายเดือนแรกของปีนี้ ทั้งไฟฟ้าดับอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง ขาดแคลนน้ำประปา เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ขาดแคลนอาหารและยาที่ทำให้พลเมืองจำนวนมากพยายามอพยพหนีออกไปประเทศอื่น
“ฉันหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ต้องมาชุมนุมประท้วงบนถนน” คลอเดีย ริเวรอส พนักงานในร้านเบเกอรี วัย 36 ปีกล่าว เธอถือธงชาติเวเนซุเอลาในระหว่างการประท้วงในวันที่ 30 เม.ย. “ฉันอยากเห็นจุดจบของรัฐบาล” ขณะที่มาดูโรออกรายการทางโทรทัศน์เรียกร้องให้ชนชั้นแรงงานออกมาชุมนุมประท้วงเพื่อเป็นการต่อต้านกลุ่มผู้สนับสนุนกุยโต และเขายืนยันว่าไม่มีแผนจะหลบหนีออกนอกประเทศไปคิวบาอย่างที่นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป เนื่องจากกุยโตระบุว่ากลุ่มทหารที่เป็นกำลังสำคัญกำลังตีจากมาดูโร อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังคงระบุว่า ควบคุมสถานการณ์ได้และกองทัพยังคงหนุนหลังประธานาธิบดีมาดูโร.