ทรัมป์กดดันโอเปก น้ำมันลด 3%
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ราคาน้ำมันดิ่งลง 3% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กดดันกลุ่มประเทศโอเปกอีกครั้งให้เพิ่มเพดานการผลิตเพื่อทำให้ราคาน้ำมันลดลง
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าอยู่ที่ 72.15 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 2.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 3% ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปิดที่ 63.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ลดลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 2.9%
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์คงที่มาตลอดสัปดาห์หลังจากปรับขึ้นมา 4 สัปดาห์ต่อเนื่อง
โดยประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ว่า เขาได้เรียกร้องกลุ่มประเทศโอเปกให้ลดราคาน้ำมันลง โดยไม่ได้ระบุว่าเขาคุยกับใคร
ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์โพสต์ถึงโอเปกหลายครั้งบนทวิตเตอร์ บ่อยครั้งที่เขากดดันให้โอเปกลดราคาน้ำมันลง และความเห็นของเขาดูจะส่งผลกระทบชั่วคราวกับตลาด
อย่างไรก็ตาม ความเห็นของทรัมป์เมื่อวันที่ 26 เม.ย.เพียงพอที่จะกดดันตลาดหลังจากราคาน้ำมันพุ่งทะยานมานานหลายสัปดาห์
โดยเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ราคาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งสูงกว่า 75 ดอลลาร์สหรัฐฯเป็นครั้งแรกในปีนี้ หลังจากเยอรมนี โปแลนด์ และสโลวาเกียระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียผ่าน
ท่อหลักเนื่องจากมีการปนเปื้อน โดยรัสเซียระบุว่า มีแผนจะฟื้นการส่งน้ำมันผ่านท่อจาก Druzhba ไปยุโรปภายในสองสัปดาห์
ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าพุ่งสูงขึ้นกว่า 30% ในปีนี้ หลังจากกลุ่มโอเปกและพันธมิตรหลายประเทศลดเพดานการผลิตน้ำมันลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจากการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรการส่งออกของเวเนซุเอลา และอิหร่านยิ่งเป็นการลดปริมาณซัพพลายน้ำมัน
ผู้ค้ายังระบุว่า การขายออกของวันที่ 26 เม.ย.มีผลมาจากข่าวลือที่ว่า สหรัฐฯจะผ่อนผันให้จีนซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้ต่อไป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มปริมาณซัพพลายน้ำมันทั่วโลก
สหรัฐฯและจีนยังคงอยู่ในกระบวนการการเจรจาทางการค้าเพื่อยุติข้อพิพาทที่มีมานานหลายเดือน
ตลาดพร้อมรับมือกับราคาที่ปรับลดลง หลังจากในสัปดาห์นี้ผู้ขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯลดการขุดเจาะมากที่สุดในรอบสามเดือนที่ผ่านมา โดยลดการขุด 20 แท่นจากทั้งหมด 805 แท่นเนื่องจากผู้ผลิตปฏิบัติตามแผนลดการใช้จ่ายในแท่นขุดเจาะใหม่.