เกาหลีเหนือชี้สันติภาพขึ้นอยู่กับสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีคิมจองอึนแห่งเกาหลีเหนือกล่าวกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซียว่าสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีขึ้นอยู่กับสหรัฐฯ โดยเตือนว่า อาจหวนกลับไปเป็นศัตรูได้ง่าย สื่อเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันที่ 26 เม.ย.
คำพูดของคิมในระหว่างการประชุมกับปูตินในวันที่ 25 เม.ย. ดูจะมีจุดประสงค์ในการกดดันให้สหรัฐฯยืดหยุ่นกับความต้องการของเกาหลีเหนือเพื่อให้ผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ
ปูตินระบุว่า หลังจากการพูดคุยตัวต่อตัวเป็นครั้งแรกกับคิมที่เมืองท่าเรือวลาดิวอสต็อก ในรัสเซียเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่า การรับประกันความมั่นคงของสหรัฐฯไม่เพียงพอที่จะโน้มน้าวเกาหลีเหนือให้ยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์
โดยผู้นำรัสเซียระบุว่า เขาเชื่อว่าการรับประกันจากสหรัฐฯ อาจจำเป็นต้องมีการสนับสนุนจากประเทศอื่นๆที่เกี่ยวข้องในการพูดคุยหกฝ่ายในประเด็นนิวเคลียร์ ซึ่งประกอบด้วย รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ รวมทั้งสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ
“ผมคิดว่าเราทำได้ดีมากกับเกาหลีเหนือ มีความก้าวหน้า” ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว “ ผมชื่นชมถ้อยแถลงของประธานาธิบดีปูตินเมื่อวานนี้ เขาก็อยากเห็นทุกอย่างดีขึ้น ผมคิดว่ามีความตื่นเต้นมากในการดีลกับเกาหลีเหนือ”
การประชุมซัมมิตในฮานอยเมื่อเดือนก.พ.ล้มเหลวโดยไม่มีความก้าวหน้า เนื่องจากสหรัฐฯต้องการให้เกาหลีเหนือยกเลิกอาวุธนิวเคลียร์ และเกาหลีเหนือต้องการให้ยกเลิกการคว่ำบาตร
โดยผู้นำเกาหลีเหนือระบุว่า เขาจะรอจนถึงสิ้นปีเพื่อให้สหรัฐฯยืดหยุ่นกับข้อเรียกร้อง
“ สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีและภูมิภาคตอนนี้หยุดนิ่ง และอาจหวนกลับไปสู่สภาวะเดิม เนื่องจากสหรัฐฯมีแนวคิดเพียงฝ่ายเดียวในด้านลบในการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2” สำนักข่าว KCNA ยกคำพูดของคิมมารายงาน
ผู้นำทั้งสองพูดคุยกันเพื่อส่งเสริมการสื่อสารทางยุทธศาสตร์และการประสานความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีและนอกเหนือจากนั้น
โดยปูตินระบุว่าข้อตกลงเรื่องอาวุธนิวเคลียร์มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการเคลื่อนไหวทีละขั้นตอนเพื่อสร้างความเชื่อถือนานหลายปีที่รัสเซียมีส่วนร่วมในการพูดคุย 6 ฝ่าย ซึ่งไม่ได้มีการจัดการประชุมมาตั้งแต่ปี 52
“ พวกเขาต้องการการรับประกันเรื่องความมั่นคง เท่านั้นแหละ เราทุกฝ่ายจำเป็นต้องคิดเรื่องนี้” ปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากประชุมกับคิม โดยการรับประกันต้องมาจากนานาชาติ เป็นข้อผูกพันทางกฎหมาย เพื่อคุ้มครองอธิปไตยของเกาหลีเหนือ รัสเซียและเกาหลีเหนือตกลงที่จะประสานความร่วมมือกันมากขึ้น และปูตินตอบรับคำเชิญของคิมที่จะไปเยือนเกาหลีเหนือ แต่ยังไม่ประกาศกำหนดการ.