ทรัมป์ระดมทุนเลือกตั้งได้มาก
แม้จะเผชิญหน้ากับพรรคเดโมแครตที่พยายามหาทางคว่ำเขา แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กลับสามารถระดมทุนเพื่อการเลือกตั้งได้มากขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ มากกว่าในช่วงการระดมทุนครั้งอื่น นับตั้งแต่เขาเข้ามารับตำแหน่งในทำเนียบขาวและยื่นหลักฐานในการลงสมัครเลือกตั้งอีกเป็นสมัยที่ 2
โดยประธานาธิบดีทรัมป์ระดมทุนได้มากถึง 30.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ( 968 ล้านบาท) ในช่วงการระดมทุนไตรมาสเดือนม.ค. – มี.ค. และใช้จ่ายไปเพียง 8.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นจำนวนที่ลดลงมาอย่างมากเมื่อเทียบกับการใช้จ่ายอย่างหนักในแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งช่วงสิ้นปี 61 ที่ต้องสนับสนุนผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งกลางเทอม จากการระดมทุนที่เพิ่มขึ้นและลดทอนการใช้จ่ายลงทำให้ประธานาธิบดีมีเงินสำรองเหลือสำหรับแคมเปญเกือบ 40.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจากรายงานที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางเมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา
กลุ่มผู้สนับสนุนของทรัมป์ทำให้มีการควบคุมพรรครีพับลิกันได้มากขึ้น ทำให้พวกเขามีอิทธิพลเหนือการตัดสินใจใช้จ่ายงบของคณะกรรมการพรรครีพับลิกันแห่งชาติ โดยทรัมป์และพรรคเริ่มต้นเดือนเม.ย.ด้วยจำนวนเงินสดสำรองกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้ ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตไม่สามารถระดมทุนหาเสียงเลือกตั้งได้ใกล้เคียงกับทรัมป์เลย
โดยเบอร์นี แซนเดอร์ส ส.ว.รัฐเวอร์มอนต์ ซึ่งลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ระดมทุนให้พรรคเดโมแครตได้ 18.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เขาเริ่มเดือนเม.ย.ด้วยเงินสดสำรองที่เหลืออยู่ 26.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กระจายไปตาม 3 บัญชีแคมเปญการเลือกตั้ง อ้างอิงจากแคมเปญของเขาและคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง
“เงินสำรองของทรัมป์การันตีว่านี่จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่มีราคาแพงที่สุดในประวัติศาสตร์” แดน อีเบอร์ฮาร์ท นักลงทุนน้ำมันในแอริโซนาและนักระดมทุนให้พรรครีพับลิกันระบุเมื่อวันที่ 15 เม.ย.
การตัดสินใจของทรัมป์ที่จะเริ่มต้นเร็วกว่าคนอื่นและตัดสินใจยื่นเอกสารในการเลือกตั้งอีกสมัยตั้งแต่วันที่เขาสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง “ ทำให้เขามีความได้เปรียบเหนือพรรคเดโมแครตและคนอื่นๆ” อีเบอร์ฮาร์ทเสริม
เมื่อวันที่ 15 เม.ย. อดีตผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเสตส์ บิล เวลด์ เริ่มต้นการลงสมัครเลือกตั้ง เป็นตัวเลือกของพรรครีพับลิกันอีกคนที่จะท้าทายทรัมป์
ขณะที่ทรัมป์มีอิสระที่จะใช้เงินในการเลือกตั้งได้มากขึ้น พรรคเดโมแครตกำลังเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากไม่มีตัวเลือกของพรรคที่มีความเป็นดารามากพอในการระดมทุน
แม้จะออกตัวเร็ว แต่แซนเดอร์สก็ยังทำได้ไม่มากพอ และแคนดิเดตคนอื่น เช่น Kamala Harris ส.ว.รัฐแคลิฟอร์เนีย ระดมทุนได้ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ Beto O’Rourke อดีตส.ส.รัฐเท็กซัสระบุว่าเขาหาได้ 9.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ Pete Buttigieg นายกเทศมนตรีรัฐอินเดียนาทำได้เกือบ 7.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ในช่วงเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์ใช้เงินมากกับสื่อโฆษณาดิจิทัลเพื่อเข้าถึงผู้บริจาคและผู้สนับสนุนที่มีศักยภาพ และสื่อโฆษณาออนไลน์ยังคงเป็นอันดับ 1 ของการใช้จ่ายในช่วงต้นปีนี้ โดยอีกอย่างที่มีการใช้เงินเยอะคือค่าธรรมเนียมตามกฎหมาย ที่ใช้ไปกว่า 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 18% ของการใช้จ่ายทั้งหมดของแคมเปญในช่วงไตรมาสแรก.
