ทำเนียบขาวชี้สหรัฐฯยังไม่พอใจคุยการค้าจีน
ทางการสหรัฐฯ “ยังไม่พอใจ” ในหลายประเด็นในการเจรจากับจีนเพื่อยุติสงครามการค้าระหว่างกัน แต่มีความก้าวหน้าในการพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวระบุ
สหรัฐฯและจีนมีการเก็บภาษีกับสินค้านำเข้าของกันและกันมาตั้งแต่เดือนก.ค.61 ส่งผลกระทบกับตลาดการเงินและซัพพลายเชนทั่วโลก และสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของสองประเทศมหาอำนาจจำนวนมาก
โดยสหรัฐฯกดดันให้จีนเปลี่ยนวิธีการในการทำการค้าที่รัฐบาลจีนให้เงินอุดหนุนอุตสาหกรรม, การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
ทั้งสองฝ่ายจบการประชุมรอบล่าสุดในกรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะมีการเจรจารอบใหม่ในสัปดาห์นี้ที่จีน
“ เรามีความก้าวหน้าในหลายอย่าง และมีบางเรื่องที่เรายังไม่พอใจ” Clete Willems ที่ปรึกษาอาวุโสการค้าระหว่างประเทศจากทำเนียบขาวซึ่งเข้าร่วมในการเจรจาการค้ากับจีนกล่าวกับสื่อรอยเตอร์นอกรอบของการประชุมหอการค้าสหรัฐฯเมื่อวันที่ 8 เม.ย. แต่เขาปฏิเสธที่จะระบุอย่างเจาะจงว่าประเด็นใดที่ยังคงตกลงกันไม่ได้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงกันได้ในเวลาประมาณ 4 สัปดาห์
Willems ยังปฏิเสธที่จะระบุถึงเวลาของข้อตกลงที่ชัดเจน โดยชี้ว่า “ ควรเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับประชาชน เราจึงไม่รีบร้อนในเรื่องนี้ เราอยากให้มันถูกต้องเหมาะสม และเราอยากมั่นใจในหลายอย่าง”
เขาระบุว่า ทั้งสองฝ่ายยังพยายามจัดการกับมาตรการภาษีที่บังคับใช้อยู่ โดยสหรัฐฯเก็บภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และรัฐบาลทรัมป์มองว่ามาตรการภาษีจะทำให้จีนรักษาสัญญาในข้อตกลง ขณะที่จีนอยากให้ยกเลิกการจัดเก็บภาษีทั้งหมด
โดยสหรัฐฯและจีนได้ตกลงกันในโครงสร้างที่จะให้วอชิงตันมีสิทธิตอบโต้หากทางปักกิ่งไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง Willems ระบุ
บรรดาผู้นำในสหภาพยุโรปไม่มองประเด็นนโยบายการค้ากับจีนเป็นเรื่องจริงจังเหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต แต่สหรัฐฯกับอียูในตอนนี้กำลังทำงานประสานกันที่องค์การการค้าโลก หรือ WTO ในแนวนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่เปิดตลาดกว้างของจีน เขากล่าวก่อนการประชุมของหอการค้าสหรัฐฯ
สหรัฐฯต้องการทำงานกับอียูในโครงการร่วมที่เป็นทางเลือกในการจัดหาตลาดจนถึงโครงการภาครัฐเพื่อให้เป็นข้อผูกพัน
ในเดือนเม.ย.นี้ จีนจะจัดการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 ของ Belt and Road Initiative (BRT) ซึ่งเป็นโครงการเชื่อมจีนกับเอเชีย ยุโรป และประเทศนอกเหนือจากนั้นด้วยโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ แต่สหรัฐฯจะไม่ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงมาร่วมประชุม จะส่งเพียงนักการทูตจากสถานทูตมาร่วมสังเกตการณ์เท่านั้น
วอชิงตันมองว่าปักกิ่งเป็นคู่แข่งทางยุทธศาสตร์สำคัญ สหรัฐฯเคยระบุว่าโครงการ BRT ของจีนเป็นหนทางในการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนในต่างประเทศ และจะทำให้ประเทศรายได้น้อยติดกับดักหนี้ที่ไม่ยั่งยืนกับจีนด้วยโครงการที่คลุมเครือ ไม่โปร่งใส.