มัสยิดที่ถูกโจมตีในนิวซีแลนด์เปิดอีกครั้ง
มัสยิดสองแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์ซึ่งถูกมือปืนกราดยิงผู้ที่มาละหมาดเสียชีวิตถึง 50 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ได้เปิดประตูต้อนรับชาวมุสลิมขึ้นอีกครั้งในวันที่ 23 มี.ค. พร้อมกับผู้รอดชีวิต ซึ่งอยู่ในกลุ่มแรกที่เดินเข้าไปในมัสยิดและสวดภาวนาให้กับผู้ที่เสียชีวิต
ที่มัสยิด Al Noor ซึ่งมีเหยื่อเคราะห์ร้ายเสียชีวิตกว่า 40 รายโดยผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนผิวขาวซึ่งมีแนวคิดว่าคนผิวขาวเหนือกว่าทุกกลุ่มชาติพันธุ์ มีตำรวจพร้อมอาวุธประจำการเพื่อให้ความปลอดภัยกับกลุ่มชาวมุสลิมผู้ที่มาละหมาด แต่ไม่มีภาพที่ทำให้หวนคิดถึงเหตุสังหารหมู่ ซึ่งเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่เลวร้ายที่สุดในนิวซีแลนด์
Aden Diriye ซึ่งสูญเสียบลูกชายวัย 3 ปีในเหตุร้าย กลับมาที่มัสยิดอีกครั้งพร้อมเพื่อนๆของเขา
“ ผมมีความสุขมาก” เขากล่าวหลังละหมาด “ พระอัลเลาะห์ยิ่งใหญ่สำหรับเรา ผมกลับมาทันทีที่เราดีขึ้น เพื่อสวดภาวนา”
เหยื่อส่วนใหญ่ของเหตุกราดยิง ซึ่งนายกรัฐมนตรีเจซินดา อาร์เดิร์นแห่งนิวซีแลนด์ประณามว่าเป็นการก่อการร้าย เป็นผู้อพยพ หรือผู้ลี้ภัย และการเสียชีวิตของพวกเขาส่งผลสะท้อนกับโลกมุสลิม
นิวซีแลนด์ยกระดับการเฝ้าระวังความมั่นคงสูงสุด หลังเหตุโจมตีที่ทำให้นายกฯอาร์เดิร์นออกกฎหมายแบนการใช้ปืนไรเฟิลชนิดที่ใช้ในเหตุสังหารหมู่เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. มีประชาชนประมาณ 3,000 คนที่รวมตัวกันเดินขบวนทั่วเมืองไครสต์เชิร์ชในการ “เดินขบวนเพื่อความรัก” เพราะชาวเมืองพยายามเยียวยาความรู้สึกให้ดีขึ้นจากโศกนาฎกรรม
หลายคนถือป้ายที่มีข้อความว่า “ เขาอยากแบ่งแยกเรา เขาทำให้เราแกร่งขึ้น” หรือ “ ยินดีต้อนรับมุสลิม แต่ไม่ต้อนรับพวกแบ่งแยกเชื้อชาติ” และมีป้ายในภาษาเมารี เช่น Kia Kaha ที่แปลว่า เข้มแข็ง โดยประชาชนส่วนใหญ่เดินอย่างสงบ หรือร้องเพลงซึ่งเป็นบทเพลงเมารีเพื่อสันติ
“ เรารู้สึกว่าความเกลียดชังนำความมืดมนมาให้และความรักเป็นการรักษาที่ดีที่สุด เพื่อทำให้เมืองที่มืดมนกลับมาสว่างสดใส” Manaia Butler นร.วัย 16 ปี คนหนึ่งซึ่งมาร่วมเดินขบวนในครั้งนี้ให้ความเห็น
นิวซีแลนด์และนายกรัฐมนตรีเจซินดา อาร์เดิร์นได้รับการชื่นชมอย่างกว้างขวางที่แสดงการเอาใจใส่ชาวมุสลิมและความเป็นหนึ่งเดียวกันในการรับมือกับเหตุร้าย
โดยชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มักตุม ผู้ปกครองนครดูไบทรงโพสต์ขอบคุณนายกฯอาร์เดิร์น
บนทวิตเตอร์เมื่อเย็นวันที่ 22 มี.ค. โดยทรงโพสต์ภาพตึกสูงที่สุดในดูไบ ที่ฉายภาพนายกฯอาร์เดิร์นสวมกอดหญิงคนหนึ่ง โดยมีคำว่า ซาลาม ในภาษาอาหรับ และมีคำแปลในภาษาอังกฤษว่า Peace อยู่ข้างบน
“ขอบคุณ @jacindaardern และนิวซีแลนด์ สำหรับการเอาใจใส่อย่างจริงจังและการสนับสนุนที่ได้รับการชื่นชมจากชาวมุสลิม 1,500 ล้านคน หลังจากเกิดเหตุก่อการร้ายที่สร้างความสะเทือนใจกับประชาคมมุสลิมทั่วโลก” ทรงระบุบนทวิตเตอร์.