เสื้อกั๊กเหลืองประท้วงสัปดาห์ที่ 17
เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ผู้ประท้วงกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองรวมตัวชุมนุมกันเดินขวนในกรุงปารีสอีกครั้ง ทำให้เป็นสัปดาห์ที่ 17 ต่อเนื่องกันของการชุมนุมประท้วงแล้ว แม้จะมีความพยายามจากประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงที่จัดให้มีการดีเบตทั่วประเทศ เพื่อรับทราบความไม่พอใจของประชาชนก็ตาม
โดยผู้ประท้วงสวมเสื้อกั๊กสีสะท้อนแสงสีเหลือง ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเคลื่อนไหวนานหลายสัปดาห์ในฝรั่งเศส และมีผู้ร่วมชุมนุมที่สวมหมวกสีชมพูคือกลุ่มพี่เลี้ยงเด็กที่เรียกร้องต่อต้านการปฏิรูปเงินอุดหนุนการว่างงานของพวกเขา
มีกลุ่มคนอื่นๆที่มีแผนจะเข้าร่วมในการประชุมในวันที่ 9 มี.ค.ในหลายเมืองใหญ่ของฝรั่งเศส เช่น บอร์โดซ์ และตูลุส รวมถึงเมืองที่เล็กกว่าอย่าง เมืองปุยอ็องเวอแล
กลุ่มผู้เดินขบวนจำนวนหนึ่งทำ ‘แฟลชม็อบ’ ที่ท่าอากาศยานชาร์ลส์เดอโกลล์ โดยโบกธงชาติฝรั่งเศสและเต้นอยู่ในเทอร์มินัล จากภาพข่าวใน BFM TV
การประท้วงเริ่มขึ้นในเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เพื่อเป็นการตอบโต้แผนของประธานาธิบดีมาครงที่จะขึ้นภาษีน้ำมัน ซึ่งเป็นรูปแบบที่เขาคิดว่าจะช่วยทำให้อากาศสะอาดขึ้น โดยการประท้วงได้ลุกลามกลายเป็นการต่อต้านรัฐบาล โดยผู้ประท้วงมองว่ารัฐบาลไม่ได้รับทราบถึงภาวะความยากลำบากที่ครัวเรือนและแรงงานรายได้น้อยต้องประสบอยู่
การประท้วงพีคสุดในวันที่ 17 พ.ย.ที่มีผู้เข้าร่วมชุมนุมมากถึง 300,000 คน ในวันนั้น มีการปิดกั้นถนนและเดินขบวนไปทั่วประเทศฝรั่งเศส ขณะที่วันที่ 9 มี.ค.มีผู้ประท้วงประมาณ 46,600 คน อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย
อย่างไรก็ตาม การประท้วงยังดำเนินต่อไป โดยมีสัญญาณมาบ้างว่าอาจจะมีการหยุดการประท้วงในไม่ช้า
ประธานาธิบดีมาครง ซึ่งยกเลิกการขึ้นภาษีน้ำมันและเพิ่มงบประมาณอีก 10,000 ล้านยูโร หรือราว 360,800 ล้านบาทเพื่อช่วยแรงงานที่ยากจนที่สุด ได้พยายามบรรเทาความตึงเครียดด้วยการจัดการประชุมแลกเปลี่ยนความเห็นในศาลากลางของเมืองอย่างต่อเนื่องทั่วฝรั่งเศส
การปรึกษาหารือกับผู้แทนในท้องถิ่นมีกำหนดจะสรุปในสัปดาห์หน้า ตรงกับผู้รณรงค์เคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองที่จะยกระดับกดดันรัฐบาลตลอดเดือนมี.ค.นี้
หลังจากการประท้วงเคยรุนแรงกลายเป็นจลาจลในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว แต่การเดินขบวนในช่วงนี้กลับดำเนินไปอย่างสงบมากขึ้น
โพล Ifop เมื่อวันที่ 7 – 8 มี.ค. ชี้ว่าชาวฝรั่งเศส 54% สนับสนุน หรือรู้สึกเห็นใจผู้ประท้วงกลุ่มเสื้อกั๊กเหลือง จากเว็บไซต์ข่าว Atlantico เมื่อวันที่ 9 มี.ค. โดยเพิ่มขึ้นจาก 50% ในช่วงกลางเดือนก.พ. แต่ลดลงมาจากที่เคยพีคที่สุดคือ 72%
ขณะที่ความนิยมในตัวประธานาธิบดีมาครงเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ โดยโพล Isop ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ชี้ว่า ความนิยมในตัวเขาเพิ่มขึ้น 8% มาอยู่ที่ 28% ซึ่งเป็นระดับที่ยอมรับได้.