ทรัมป์ไม่ชนะสงครามการค้าง่ายเหมือนที่พูด
เมื่อหนึ่งปีก่อน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ประกาศว่า “ สงครามการค้าเป็นเรื่องดีและเอาชนะได้ง่ายๆ” หลังจากนั้น ทำเนียบขาวก็เคลื่อนไหวตามเป้าหมายด้วยการทำสงครามการค้าโดยส่วนใหญ่ผ่านมาตรการภาษี และการเจรจาพูดคุยกับจีน
ขณะที่มาตรการกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้เกิดความกลัวไปทั่วทั้งกลุ่มธุรกิจ เกษตรกรและส.ส. โดยทรัมป์ทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าในปีของการประลองยุทธ์ทางการค้า โดยในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อปีที่แล้ว ทรัมป์ตกลงที่จะให้มีการปรับแก้ไขข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA กับเม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่รัฐบาลทรัมป์ยังคิดด้วยว่า นี่ใกล้จะมีการทำข้อตกลงใหม่กับจีนหลังจากการเจรจาล่มเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
ยังคงมีข้อผิดพลาดรออยู่ แม้จะมีคำสั่งคุ้มครองให้มีการเลื่อนกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา สำหรับการทำข้อตกลงของสหรัฐฯ – จีน โดยสหรัฐฯยังคงต้องการกำจัดอุปสรรคการค้าทั้งหลายในการดีลกับจีน เช่น การลงโทษในด้านการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทรัมป์ยังคงโน้มน้าวให้สภาคองเกรสมีมติเห็นชอบกับข้อตกลงสหรัฐฯ เม็กซิโก และแคนาดา เนื่องจากทางพรรคเดโมแครตแสดงความสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงานและสภาพแวดล้อมในดีล
โดยทรัมป์เริ่มทวีตเรื่องสงครามการค้าตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค.61 ส่งผลให้เกิดความกลัวสั่นสะเทือนไปทั่วตลาดการเงิน
ถึงแม้จะทำให้ตลาดหุ้นต้องผันผวนจากความกลัวเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ขยายวงกว้างขึ้นกับจีน แต่ดัชนี S&P500 กลับพุ่งขึ้นเกือบ 4% ตั้งแต่นั้น
ในตอนนี้ ธุรกิจและนักลงทุนมีความหวังว่าจะมีความก้าวหน้าและเปลี่ยนเป็นการทำข้อตกลงที่มั่นคงกับจีน และมีการผ่อนคลายด้านภาษี ในช่วงปลายเดือนก.พ. ทรัมป์เลื่อนแผนจะขึ้นภาษีมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้าจีน เป็นอัตรา 25% จากเดิม 10% ชี้ให้เห็นถึง
“ ความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม” ในการเจรจาครั้งล่าสุดกับจีน เขากล่าวว่า ทั้งสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจมีแผนจะประชุมซัมมิตเพื่อ “ สรุปข้อตกลง” โดยคาดการณ์ว่าทั้งสองฝ่ายจะมีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้น
จนถึงตอนนี้ สหรัฐฯมีมาตรการภาษีมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้าจีน ขณะที่จีนเก็บภาษีมูลค่า 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ.