ญี่ปุ่นเดินหน้าแผนย้ายฐานทัพสหรัฐฯในโอกินาว่า
แม้เสียงส่วนใหญ่ในการทำประชามติบนเกาะโอกินาว่าจะคัดค้านแผนการย้ายฐานทัพอากาศสหรัฐฯ แต่รัฐบาลกลางของญี่ปุ่นระบุเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ว่า ตั้งใจที่จะเดินหน้าผลักดันแผนการก่อสร้างต่อไป
กว่า 70% ของผู้ลงคะแนนโหวตในการทำประชามติในโอกินาว่าคัดค้านการย้ายฐานทัพสหรัฐฯ ฟุเตนมะ โดยการผลักดันของ เดนนี ทามากิ ผู้ว่าการของจังหวัดโอกินาว่า ซึ่งชนะการเลือกตั้งในเดือนก.ย.ปีที่แล้ว
เกาะโอกินาว่าเป็นที่ตั้งหลักของกองทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ จึงทำให้เป็นศูนย์กลางของความมั่นคง ที่ผ่านมา ประชาชนในโอกินาว่าต้องประสบกับปัญหาอาชญากรรม มลพิษ และอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งซึ่งเป็นผลมาจากฐานทัพ
ผู้ว่าการต้องการให้เคารพผลประชามติที่ออกมา และแจ้งให้นายกฯญี่ปุ่นและประธานาธิบดีสหรัฐฯ รับทราบ หากข้อเรียกร้องได้รับการสนับสนุนมากกว่า 25% ของผู้มีสิทธิออกเสียง
ทั้งนี้ รัฐบาลกลางของญี่ปุ่นและรัฐบาลท้องถิ่นในโอกินาว่า โต้เถียงกันมานานเกี่ยวกับแผนในการย้ายฐานทัพ
ข้อตกลงสหรัฐฯ -ญี่ปุ่นเรียกร้องให้มีการย้ายฐานทัพ ซึ่งล้อมรอบไปด้วยโรงเรียนโรงพยาบาลและร้านค้าจำนวนมาก เพื่อให้ไปอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีผู้คนอาศัยอยู่น้อยกว่าคือเฮโนโกะ ทางเหนือของโอกินาว่า อย่างไรก็ตาม ประชาชนในโอกินาว่า ชี้ว่าเป็นภาระที่ไม่ยุติธรรมและเรียกร้องให้มีการย้ายฐานทัพสหรัฐฯออกไปจากเกาะโอกินาว่าอย่างถาวร
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ว่า รัฐบาลจะรับเอาผลการลงประชามติมาพิจารณา และจะทำงานเพื่อความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ แต่แผนการย้ายฐานทัพสหรัฐฯยังคงเดิม
“ เราไม่อาจหลีกเลี่ยงความจำเป็นในการย้ายฐานทัพฟุเตนมะ ซึ่งเป็นฐานทัพที่มีอันตรายที่สุดในโลก” นายกฯอาเบะกล่าว โดยระบุว่าเวลาผ่านไปกว่าสองทศวรรษแล้วตั้งแต่มีการทำข้อตกลง
“ เราไม่อาจเลื่อนได้อีก” เขากล่าว
ผู้ว่าฯทามากิเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับ “การตัดสินใจที่มั่นคง” ของชาวโอกินาว่าที่ว่า การย้ายฐานทัพเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
“ ผมขอให้รัฐบาลเปลี่ยนมุมมองที่ว่า การย้ายฐานทัพไปเฮโนโกะเป็นหนทางเดียวเท่านั้น และขอให้ระงับการก่อสร้าง ไปพร้อมๆกับมีการพูดคุยกับเราเรื่องการการปิดฐานทัพฟุเตนมะ และคืนพื้นที่ให้กับเรา” ผู้ว่าฯทามากิกล่าว
ผลการลงประชามติไม่มีแนวโน้มจะสั่นคลอนจุดยืนของรับบาลกลางได้ Steven Reed อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยชูโอกล่าว
“ นี่ไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลท้องถิ่น แต่เป็นนโยบายต่างประเทศ ดีลนี้มีขึ้นแล้ว” เขากล่าว
ศ.Reeds ระบุว่าผลประชามติอาจช่วยหนุนให้พรรค CDPJ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ได้ที่นั่งเพิ่มในสภาสูงในการเลือกตั้งปีนี้ เนื่องจากทางพรรคคัดค้านการย้ายฐานทัพเช่นกัน.